เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ห้องประชุมทองกวาว สำนักงานสาธารณสุข จ.อุดรธานี ดร.นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี นายคงจักร์ บุญทัน ผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 8 ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจง กรณี ผิง ชญาดา พร้าวหอม อายุ 20 ปี นักร้องลูกทุ่งหมอลำ รถแห่โอปอมิวสิคอุดรธานี สังกัดกีตาร์เรคคอร์ด ออกซิงเกิลของตัวเองมาแล้ว 5 เพลง ได้เสียชีวิตลงที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เมื่อวานนี้ 8 ธันวาคม 2567 หลังจาก 3 เดือนก่อนไปนวดที่ร้านนวดแห่งหนึ่งริมหนองประจักษ์ศิลปาคม หมอนวดได้นวดลักษณะ “บิดคอ” เมื่อมีอาการก็ไปนวดอีก 2 ครั้ง ในที่สุดก็ป่วยไปไหนไม่ได้ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับข้อมูลข่าวสารจากสื่อมวลชน การมาแถลงครั้งนี้เพื่อให้รับข้อมูลตรงกันว่า รัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข ได้ใช้นวดแผนไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างหนึ่ง ในการมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีบางส่วนก็อยู่เหนือการควบคุมของหน่วยงานราชการ โดยมีเป้าหมายสร้างความเชื่อมั่นประชาชน โดยทราบจากข่าวได้มอบให้ทีมงานเดินทางไปเคารพศพ “ผิง ชญาดา” ที่บ้านพัก และได้พูดคุย ให้กำลังใจญาติ พร้อมกับการให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าการรักษาเป็นอย่างไร ซึ่งก็ตรงกับการที่สื่อมวลชนรายงานส่วนหนึ่ง รวมทั้งแนะนำการช่วยเหลือ อาทิ “กองทุนยุติธรรม”
การเดินทางลงพื้นที่พบกันครอบครัว น.ส.ชญาดา พร้าวหอม อายุ 20 ปี หรือ “ผิง ชญาดา” มาเข้ารับการรักษาเมื่อ 5 ตุลาคม 2567 ด้วยอาการเริ่มต้นปวดคอ บ่า ไหล่ ไปนวดในร้านนวดในอุดรธานี โดยอ้างว่าการนวดมีการ “บิดคอ” หรือ “หักคอ” ด้วย หลังจากนวดแล้วสองวันก็มีอาการปวดที่ท้ายทอย จนต้องรับประทานยาระงับอาการปวด จากนั้นหนึ่งสัปดาห์ได้กลับไปนวดอีกครั้ง ที่ร้านเดิมกับหมอนวดคนเดิม ต่อมาก็มีอาการปวดมากขึ้น จึงกลับไปร้านนวดร้านเดิมแต่คนนวดใหม่ เมื่ออาการไม่หายก็มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
“30 ต.ค. 67 ไปโรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์ ในอาการเดียวกัน แพทย์ได้เอกซเรย์แล้วก็ส่งต่อโรงพยาบาลหนองหาน แพทย์ได้สั่งยาแล้วให้กลับไปรักษาตัวที่บ้าน ไม่กี่วันก็เดินทางมาที่โรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์อีก และส่งต่อมายังที่โรงพยาบาลหนองหาน และในช่วง 6-11 พ.ย. โรงพยาบาลหนองหานส่งต่อมายังโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ได้นอนรักษาตัวอยู่ที่ตึกกระดูกและข้อ แพทย์ตรวจพบแขนขาอ่อนแรง ไม่มีปัญหาเรื่องกระดูกหักที่ต้นคอ ได้ปรึกษาแพทย์อายุรกรรมจึงเจาะหลังพบว่าเป็นไขสันหลังอักเสบ จึงทำการรักษาด้วยยา (ฉีด) จากนั้นก็ให้ยาแบบกินหรือรับประทาน แล้วให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้าน โดยไปรับยาที่โรงพยาบาลหนองหาน”
ด้วยความห่วงใยของญาตินำผู้ป่วยไปโรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์ จึงส่งตัวมารับยาต่อที่โรงพยาบาลอุดรธานี โดยเมื่อ 18 พ.ย. 67 ญาติปรึกษาเรื่องของอาการเกร็ง กระตุกของผู้ป่วย วันที่ 22 พ.ย. ผู้ป่วยถูกนำเข้าห้องไอซียู นี่คือข้อมูลที่สามารถให้ได้ ส่วนบันทึกต่างๆ รายงานทางการแพทย์ ถือว่าเป็นความลับของผู้ป่วย ทางหมอเองพร้อมให้ความร่วมมือ แต่ทั้งหมดต้องอยู่ที่ญาติ ขอแสดงความเสียใจกับน้องที่ต้องจากพวกเราไป ด้วยอาการการติดเชื้อในกระแสโลหิต อีกทั้งการติดเชื้อรา ซึ่งการติดเชื้อในครั้งนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุชัดเจนว่าติดจากไหนได้ อาจจะเป็นการติดช่วงที่มีอาการป่วยแล้วนอนติดเตียง จะตอบชัดเจนลงไปไม่ได้ ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาเป็นผู้ตอบเพื่อเอาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาประกอบ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นสิทธิของญาติที่ร้องทุกข์
สสจ.อุดรธานี ร่วมกับศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 8 ตรวจสอบเบื้องต้นในร้านที่ถูกระบุว่า น้องผิงไปรับบริการนวดพบว่าได้รับอนุญาตถูกต้อง มีพนักงานนวด 7 คน สามารถแสดงใบรับการอบรมแบบเป็นการนวดเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมงได้ 6 คน อีก 1 คน ตรวจสอบผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ ระบุว่าคนนี้ผ่านการอบรม 150 ชั่วโมงเช่นเดียวกัน สำหรับการนวดแยกออกเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกเรียกว่า การนวดเพื่อสุขภาพ หรือนวดผ่อนคลาย สถานประกอบการที่เป็นข่าว ตั้งอยู่ริมหนองประจักษ์ศิลปาคมมี 14 ร้าน ตัวอาคาร เทศบาลนครอุดรธานีเป็นผู้ให้เช่า เป็นอาคารมาตรฐานตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขบอกไว้ เป็นการนวดเพื่อสุขภาพทั้งหมด ผู้นวดจะต้องผ่านการอบรม 150 ชั่วโมง ไม่มีการนวดแบบบิดคอ หรือบิดตัว เจ้าของผู้ประกอบการต้องกำกับดูแล
ส่วนประเภทที่สอง จะต้องผ่านการอบรมไม่น้อยกว่า 372 ชั่วโมง ถือเป็นเรื่องของวิชาชีพกำกับโดยแพทย์แผนไทย ซึ่งผู้ผ่านการอบรมจะได้รับใบผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย มีสภาการแพทย์แผนไทยเป็นคนกำกับมาตรฐาน เหมือนกับแพทย์ทั่วไปที่ต้องกำกับดูแลด้วยแพทยสภา ซึ่งลักษณะเป็นการรักษามากกว่าการนวดเพื่อคลายเครียด ส่วนการนวดจริง เราไม่สามารถพิสูจน์ได้ ตามกฎหมายกรณีพิสูจน์ทราบว่า เป็นเหตุว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ จะต้องมีทำตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งญาติพี่น้องได้ไปแจ้งความกับตำรวจแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการ สาเหตุตามข้อสงสัยจะต้องพิสูจน์ทราบ นั่นก็คือการผ่าชันสูตรพลิกศพ ซึ่งต้องขึ้นกับญาติจะดำเนินการต่อ กระทรวงสาธารณสุขพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อให้เข้าสู่กระบวนการ
สำหรับพนักงานนวดที่มานวดให้กับผู้ป่วย 2 ครั้ง และใช้วิธีการนวดแบบบิดคอ ยังอยู่ในระหว่างการพิสูจน์ทราบว่าพนักงานคนนั้นเป็นใคร โดยข้อมูลที่เราไปตรวจสอบ เขาก็ตอบได้เท่าที่เขาตอบเราได้ อาจจะจดจำกันไม่ได้เพราะนานมาแล้ว หรือไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลคล้ายกับการเก็บข้อมูลไทม์ไลน์ของการพบผู้ป่วยโควิด-19 นอกจากนี้การเคลื่อนของกระดูกซี 1-4 ทำให้คนป่วยเสียชีวิตได้หรือไม่ ผู้ตอบได้ดีที่สุดก็คือแพทย์ด้านกระดูก ตนไม่ได้เป็นหมอกระดูก อีกทั้งไม่ได้ทำการตรวจรักษามาระยะหนึ่งแล้ว อธิบายได้ง่ายๆ ว่า อะไรที่มันไม่ปกติมันก็มีผลทั้งนั้น การผิดรูปก็มีหลายรูปแบบ ผิดรูปตั้งแต่เกิด, ถูกกระทบกระแทก, การติดเชื้อ และมะเร็ง ตนคงตอบไม่ได้ทั้งหมดต้องให้ผู้เชี่ยวชาญกระดูก อายุรกรรม หรืออื่นๆ มาตอบคำถามนี้ ท่านน่าจะอธิบายได้ดีกว่า