เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.67 ที่ห้องประชุมอำเภอบรบือ  จ.มหาสารคาม  นายฉลาด  ขามช่วง  ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ  สภาผู้แทนราษฎรและคณะ  ลงพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม  เพื่อรับทราบข้อมูล  ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินโครงการซ่อมแซมประตูระบายน้ำห้วยเชียงคำ  ตำบลโนนราษี อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม  พร้อมรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำแตกเมื่อวันที่ 16 ก.ค.67 ที่ผ่านมา

โดยตัวแทนชาวบ้านได้พูดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น  พื้นที่นาข้าวได้รับความเสียหายจากน้ำที่หลากลงมา  ทำให้มีดินทรายทับถม  ผืนนากลายเป็นผืนทรายไม่สามารถทำนาปลูกข้าวได้  หลักกั้นแบ่งเขตนาข้าว  ก็ถูกน้ำพัดเสียหาย  เถียงนา  สัตว์เลี้ยงลอยไปกับน้ำ  แต่ยังไม่ได้รับเงินชดเชย  หรือทางภาครัฐชดเชยให้น้อยเกินไปไม่คุ้มค่ากับทรัพย์สินที่เสียไป  รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ  ที่ชาวบ้านเชื่อว่าไม่ได้เป็นเพราะภัยพิบัติ  แต่เป็นเพราะการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  จึงอยากให้คณะกรรมาธิการได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง

นางไกรษร  บุรีมาศ  ชาวบ้านบ้านเป้า  ต.กำพี้  อ.บรบือ  จ.มหาสารคาม  กล่าวว่า  ได้รับผลกระทบจากอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำแตก  มีพื้นที่นาทั้งหมด 8 ไร่  ที่เสียหายโดยสิ้นเชิง 3 ไร่  ต้นพะยูง 200 กว่าต้น  ที่นาที่เคยปลูกข้าวตอนนี้เป็นผืนทรายไปหมด  หากจะทำนา  ต้องขุดเปิดหน้าดินออก  ถึงจะทำนาได้เหมือนเดิม  ที่ผ่านมายังไม่ได้รับเงินชดเชยจากภาครัฐ  ตอนแรกทางเจ้าหน้าที่บอกว่าจะให้ค่าเสียหายไร่ละ 7,000 บาท  แต่ตอนหลังมาบอกว่าให้ได้ไร่ละ 1,340 บาท  มองว่ามันน้อยเกินไปไม่คุ้มค่ากับค่าเสียหายที่เกิดขึ้น  อยากได้เงินชดเชยมากกว่านี้  หรือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปปรับปรุงที่นาให้ใหม่  ให้สามารถปลูกข้าวได้เหมือนเดิม  ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้เงินสักบาท

จากนั้นคณะกรรมาธิการได้ลงพื้นที่ที่อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ  ต.โนนราษี  อ.บรบือ  จ.มหาสารคาม  เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการซ่อมแซมประตูระบายน้ำห้วยเชียงคำ  และพบปะผู้นำชุมชนในพื้นที่   ณ ปัจจุบัน  อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ  มีปริมาณน้ำเก็บกัก 2.373 ล้านลูกบาศก์เมตร  จากปริมาณเก็บกัก 5.066 ล้านลูกบาศก์เมตร  หรือคิดเป็น 46.85 % ของความจุอ่าง 

นายฉลาด  ขามช่วง  ประธานกรรมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ  สภาผู้แทนราษฎร  กล่าวว่า  ในการลงพื้นที่ในวันนี้สืบเนื่องจากได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชนว่าได้รับผลกระทบจากอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำที่แตก  สร้างความเสียหายอย่างมาก  ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม  และร้อยเอ็ด  โดยประชาชนตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด  ทำไม  อ่างเก็บน้ำถึงแตก  เกิดจากการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่  ความผิดพลาดอยู่ตรงไหน  เกิดจากอะไร  โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นและจะได้นำไปประมวลให้ผู้เชี่ยวชาญได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม  และจะได้แจ้งกลับมาทางจังหวัดให้ผู้ร้องได้รับทราบข้อเท็จจริงต่อไป  หากตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ  ก็มีกระบวนการในฐานะที่ได้รับการแต่งตั้งจากสภาผู้แทนราษฎรให้ทำหน้าที่ในการปราบปรามการทุจริต  ซึ่งวันนี้ไม่ได้มาจับผิดใคร  แต่มาแสวงหาข้อเท็จจริง

ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบเบื้องต้น  ทราบว่า  อำเภอวาปีปทุม จ.มหาสารคาม  ได้จ่ายเงินให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบไปแล้วจำนวน 19 ล้านบาท และทางหน่วยงานที่รับผิดชอบเตรียมจ่ายเงินช่วยเหลือให้ประชาชนในพื้นที่ อ.บรบือ อีกภายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้

ทั้งนี้กว่าจะมาถึงขั้นตอนการสรุปยอดการช่วยเหลือ  ต้องมีสำรวจพื้นที่และรวบรวมรายชื่อผู้ที่ได้รับความเสียหาย และการประชาคมในหมู่บ้าน  หลังจากนั้นจังหวัดประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ  ซึ่งความเสียหายจะแยกเป็นด้านทรัพย์สิน  บ้านเรือน ด้านพืชผลการเกษตร ด้านสัตว์เลี้ยง และด้านประมง  เพราะอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือต่างกัน ซึ่งหลักเกณฑ์นี้เป็นหลักการเดียวกันทั่วประเทศ  ตามประกาศของกระทรวงการคลัง  หากได้น้อยประชาชนไม่พอใจ  อาจจะมีการทบทวนและแก้ไขระเบียบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล  ซึ่งสภาจะหารือเรื่องเหล่านี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

แต่หากมีประชาชนมีรายชื่อตกหล่น  เบื้องต้นก็ได้ประสานให้ หน่วยงานที่รับผิดชอบและจังหวัด  ไปสำรวจเพิ่มเติมว่าตกหล่นจำนวนเท่าใด  ประสบภัยในช่วงเวลาดังกล่าวหรือไม่  แต่ถ้าเกิดว่าเป็นการประสบภัยหลังจากนั้นก็ให้พิจารณาเป็นเรื่องใหม่  และช่วยเหลือประชาชนต่อไป