ก่อนที่จะถูกไล่ออก มีรายงานว่า เอริก เทน ฮาก รู้สึกผิดหวังที่ผู้บริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สามารถเซ็นสัญญากับผู้เล่นระดับสตาร์ 4 […]
เกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 14 นัดกลางสัปดาห์ นิวคาสเซิ่ล เปิดบ้านพบ ลิเวอร์พูล
เอ็ดดี้ ฮาว เกมนี้ได้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ผ่านฟิตลงเล่นได้ หลังถูกเปลี่ยนออกในเกมล่าสุดที่ บุกเสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 และ เจค็อบ เมอร์ฟี่ย์ เป็นตำแหน่งเดียวที่ถูกเปลี่ยนลงสนาม
อาร์เน่อ สล็อต พาทีมไม่แพ้ใน 14 เกมหลัง โดยกมล่าสุดชนะ แมนฯ ซิตี้ แชมป์เก่า 2-0 เกมนี้ดร็อป เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ และส่ง จาเรลล์ ควอนซาห์ ลงยืนในแนวรับ ส่วน เคอร์ติส โจนส์ และ ดาร์วิน นูเญซ ได้กลับมาสตาร์ตหลังไม่มีชื่อเริ่มต้นในเกมกับ ซิตี้
สล็อต กระตุ้นลิเวอร์พูล รักษามาตราฐานเพื่อลุ้นทุกแชมป์
เรอัล มาดริด เตรียมยุติล่าตัว “เทรนต์” หวังรอย้ายทีมแบบไร้ค่าตัว
AFP/PAUL ELLIS
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ออกบอลในจังหวะที่ โชลินตอน เข้ามาแย่ง
เกมช่วงครึ่งชั่วโมงแรกแม้ลิเวอร์พูล ทีมเยือน แม้จะครองบอลได้มากกว่า แต่ในนาที 22 ก็เกือบเสียประตูดีที่ เจค็อบ เมอร์ฟี่ ยิงไปชนเสา
นาทีที่ 35 กลายเป็นเจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0 จาก อเล็กซานเดอร์ อิซัค ที่ยิงได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่านมือ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ที่หมดสิทธิ์ป้องก้น
นาทีที่ 38 อเล็กซานเดอร์ อิซัค ได้โอกาสอีกครั้งแต่ยังทำประตูที่ 2 ให้ตัวเองและทีมไม่ได้ โดยยิงข้ามคานออกไป
นาทีที่ 40 นิวคาสเซิ่ล เกือบได้ประตูเพิ่มอีกครั้งแต่ เจค็อบ เมอร์ฟี่ ยิงเลียดจากระยะ 20 หลา หลุดเสา จบครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ล นำ 1-0
นาทีที่ 50 ลิเวอร์พูล กลับมาสู่เกมตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ จ่ายไซด์ด้วยซ้ายไปให้ เคอร์ติส โจนส์ ยิงแบบไม่จับด้วยขวาเสียบใต้คานเข้าไป และถือเป็นการฉลอง 150 ในทุกรายการของมิดฟิลด์ราบนี้และเป็นประตูที่ 2 ของตัวเองในฤดูกาลนี้ด้วยเช่นกัน
นาทีที่ 54 ลิเวอร์พูล เกือบพลิกแซง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ โหม่งย้อนไปที่เสาสองให้ ดาร์วิน นูนเญซ พุ่งเข้าชาร์จ่อๆ แต่ไม่โดน
นาทีที่ 62 กับโอกาสแรกในครึ่งหลัง นิวคาสเซิ่ล นำอีกครั้ง 2-1 อเล็กซานเดอร์ อิซัค ไหลสั้นๆ ไปให้ แอนโธนี่ กอร์ดอน โยกหลบ โจ โกเมซ ก่อนยิงสวนตัว ควีวิน เคลเลเฮอร์ เข้าไป และเป็นประตูที่ 3 ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้
นาทีที่ 64 ลิเวอร์พูล ยังไม่ได้ประตูตีเสมอ เมื่อ นิค โป๊ป เซฟบนเส้นด้วยการปัดด้วยมือซ้ายลูกโหม่งของ เคอร์ติส โจนส์
นาทีที่ 66 อเล็กซานเดอร์ อิซัค แม้จะยิงเข้าไป แต่ไม่ได้ประตู เพราะถูกจับล้ำหน้า
นาทีที่ 68 ลิเวอร์พูล มาตีเสมอ 2-2 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา เปิดหักข้อจากทางขวาเข้ามาให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ซัดตามน้ำแบบไม่จับเข้าไปและถือเป็นการยิงในลีกติดต่อกัน 7 นัด ของศูนย์หน้าทีมชาติอิยิปต์และเป็นประตูที่ 12 ของตัวเองในฤดูกาลนี้
นาทีที่ 73 เจค็อบ เมอร์ฟี่ย์ ถึงบอลก่อน ควีวิน เคลเลเฮอร์ และยิงสวนตัวเข้าไปแต่ลูกไม่ตรงกรอบ
นาทีที่ 82 ลิเวอร์พูล ยังพลิกขึ้นนำไม่ได้ เมื่อ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ยิงไปชนคาน ชนิดเจ้าตัวเสียดาย
แต่แล้วนาทีที่ 83 โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ก็มายิงแซงให้ ลิเวอร์พูล นำ 3-2 หลังหมุนยิงด้วยซ้าย และเป็นประตูที่ 2 ให้ตัวเองในเกมนี้ และเป็นประตูที่ 13 ในฤดูกาล
นาทีที่ 90 นิวคาสเซิ่ล ยังไม่ยอมแพ้ มาตีเสมอ 3-3 จาก ฟาเบียน แชร์ ที่ ชาร์จด้วยซ้ายสุดขา จากฟรีคิดที่ บรูโน่ กีมาไรช์ เปิดลึกมาเข้าไป
ช่วงทดเจ็บ 5 นาที ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมเสมอกันไป 3-3 อย่างสุดมัน นิวคาสเซิ่้ล มีเพิ่มเป็น 20 แต้ม ส่วน ลิเวอร์พูล มี 35 แต้ม นำห่างอันดับ 2 อย่าง เชลซี อยู่ 7 แต้ม
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
นิวคาสเซิ่ล (4-3-3) : นิค โป๊ป – วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้, ฟาเบียน แชร์, แดน เบิร์น, ลูอิส ฮอลล์ – ซานโดร โตนาลี่, บรูโน่ กีมาไรช์, โชลินตอน – เจค็อบ เมอร์ฟี่ย์, อเล็กซานเดอร์ อิซัค, แอนโธนี่ กอร์ดอน
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ควีวิน เคลเลเฮอร์ – โจ โกเมซ, จาเรลล์ ควอนซาห์, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, เคอร์ติส โจนส์, โคดี้ กัคโป – ดาร์วิน นูนเญซ