เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีข่าวเศร้าหลังชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ เหนือคลอง และเกาะลันตา จ.กระบี่ พบซากพะยูนเพศเมีย 2 ตัว ขนาดตัวโตเต็มวัยในวันเดียวกัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤติชีวิตสัตว์ทะเลหายาก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่าน

โดยพะยูนตัวแรกชาวประมงพื้นบ้านท่าคลองพบขณะขับเรือผ่านบริเวณอ่าวเจ้าอูฐ ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา เป็นซากพะยูนเพศเมียลอยอยู่ในน้ำ จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 พร้อมกลุ่มอนุรักษ์และมูลนิธิอันดามันเข้าตรวจสอบและรายงานไปยังศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเล
ดำเนินการนำซากชันสูตรหาสาเหตุการตาย

และในวันเดียวกัน ชาวบ้านพบซากพะยูนเพศเมียอีกตัวในพื้นที่ อ.เหนือคลอง โดยชาวประมงในหมู่ 3 บ้านเกาะจำ ต.เกาะศรีบอยา แจ้งผู้ใหญ่บ้านและนำซากพะยูนมาส่งที่ท่าเรือท่าคลองเพื่อรอการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ ซึ่งเหตุการณ์นี้สร้างความห่วงใยแก่ประชาชนในพื้นที่เนื่องจากพะยูนเป็นสัตว์ทะเลหายากที่มีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง

นายเรืองเดช คล่องดี อายุ 49 ปี ประธานศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบ้านท่าคลอง ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดกระบี่ของกรม ทช. สมาชิกสภาท่องถิ่นตำบลเกาะกลาง เผยว่า จากเหตุการณ์ที่พบพะยูนตายเพิ่มวันเดียวถึง 2 ตัว ตนรู้สึกกังวลมากสักวันพะยูนคงจะสูญพันธุ์เป็นแน่ หน่วยงานภาครัฐต้องรีบแก้ปัญหา ที่สำคัญแหล่งหญ้าทะเลซึ่งเป็นอาหารของพะยูนลดลง ซึ่งเป็นสถานการณ์น่าเป็นห่วงมาก ซึ่งปัจจุบันตนพยายามอย่างเต็มที่ได้นำหญ้าทะเลมาปลูกเพื่อขยายพันธุ์ ก่อนนำไปปลูกเพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มแหล่งอาหารให้แก่พะยูน จึงอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันอนุรักษ์และหาทางป้องกันการตายของพะยูนที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง