เมื่อวันที่ 30 พ.ย. นายอายุวัฒน์ อนุตรอริยกุล ประมงอำเภอครบุรี นำทีมเจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดนครราชสีมา เข้าตรวจสอบเหตุปลาและสัตว์น้ำภายในเขื่อนลำแชะ ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ตายกะทันหันและพากันลอยมาเกยตื้นอยู่บริเวณสันเขื่อนจำนวนมาก ซึ่งก็มีทั้งสัตว์น้ำขนาดเล็กอย่างกุ้งฝอย และปลาซิวแก้ว ที่พากันลอยตายเป็นแพนับไม่ถ้วน ขณะเดียวกันก็ยังมีปลาขนาดใหญ่อย่างปลานิล ปลากระสูบ ซึ่งก็มีตั้งแต่ขนาดครึ่งกิโลกรัมไปจนถึง 5 กิโลกรัม รวมถึงปลานิลลอยมาเกยตื้นอยู่ริมสันเขื่อนอีกหลายร้อยตัวเช่นเดียวกัน
ซึ่งเหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (29 พ.ย.) ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกที่พื้นที่นี้เริ่มมีอากาศหนาวอย่างกะทันหัน วัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ประมาณ 17 องศาเซลเซียส และต่อเนื่องมาถึงวันนี้ก็ยังพบปลาและสัตว์น้ำขนาดเล็กลอยตายอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงยังมีปลาลอยคอดำผุดดำว่ายอย่างผิดปกติจำนวนมากเช่นเดียวกัน
นายอายุวัฒน์ อนุตรอริยกุล ประมงอำเภอครบุรี เปิดเผยว่า ภายหลังจากการตรวจสอบทีมเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำภายในเขื่อนขึ้นมาตรวจสอบพบว่าในช่วงเวลาประมาณตี 1 – ตี 5 ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดต่ำลงเหลืออยู่ที่ประมาณ 1 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งถือเป็นปริมาณออกซิเจนที่ต่ำมาก จึงอาจจะเป็นเหตุทำให้ปลาเกิดภาวะน็อคน้ำตาย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเริ่มมีแสงแดดปริมาณออกซิเจนก็เริ่มเพิ่มขึ้น และเข้าสู่ภาวะปกติ อีกทั้งยังยังไม่พบสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำแต่อย่างใด
ทำให้เชื่อได้ว่าสาเหตุที่ปลาในเขื่อนลำแชะตายผิดปกติจำนวนมากในครั้งนี้น่าจะเกิดจากสภาพอากาศที่ปรับเปลี่ยนอย่างกระทันทันจากร้อนมาหนาวเฉียบพลันรวมถึงสภาพอากาศปิด จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ปริมาณน้ำออกซิเจนต่ำ จนเป็นสาเหตุให้ปลาน็อคน้ำเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ประมงทุกพื้นที่ก็ได้ทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาทุกพื้นที่ให้เฝ้าระวังและรับมือกับสถานการณ์นี้มาโดยตลอด