หลายคนชอบทำอาหารเยอะๆ เพื่อเก็บใส่กล่องไว้กินนานๆหลายวัน โดยแช่ไว้ในตู้เย็นเพื่อให้เก็บอาหารได้นานขึ้น แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่มีความปลอดภัยกับชีวิต

ล่าสุดเว็บไซต์ ETtoday รายงาน กรณีของหญิงจีนวัย 36 ปี นามว่า คุณฉาง ซึ่งมีงานยุ่งจนต้องซื้ออาหารสัปดาห์ละครั้ง อาหารที่กินไม่หมดก็แช่ตู้เย็นไว้ จนกระทั่งเริ่มมีอาการท้องอืดและปวดท้อง ตอนแรกคิดว่าเป็นโรคกระเพาะธรรมดา แต่กลับตรวจพบว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร

ตามรายงานจากสำนักข่าว  Sina News คุณฉางมักนำผักที่ซื้อมาทั้งหมดเก็บไว้ในตู้เย็น แม้ว่าบางอย่างจะเก็บไว้นานแล้ว แต่เธอก็เสียดายเกินกว่าจะทิ้ง บางครั้งเมื่อรู้ว่าไม่มีเวลาทำอาหาร เธอจะทำทีเดียวเยอะๆ ไว้ แล้วนำมาอุ่นไมโครเวฟกินหลังเลิกงาน เรียกได้ว่าเธอกินอาหารเหลืออยู่บ่อยครั้ง

เมื่อไม่นานมานี้ คุณฉางเริ่มมีอาการท้องอืด คลื่นไส้ และปวดท้องบ่อยๆ ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นเพียงโรคกระเพาะ จึงซื้อยามารับประทานเอง แต่แทนที่อาการจะดีขึ้น กลับแย่ลงเรื่อยๆ จนต้องไปพบแพทย์ เมื่อทำการตรวจพบว่าเป็น “มะเร็งกระเพาะอาหาร” แพทย์คาดว่า สาเหตุน่าจะเกี่ยวข้องกับการทานอาหารเหลือและอาหารที่เก็บไว้นานในตู้เย็นบ่อยครั้ง

ขณะที่ทางด้านนายแพทย์เกา เจี้ยนไค่ รองหัวหน้าแผนกฉุกเฉิน โรงพยาบาลประชาชนเจิ้งโจว และคุณตง ลี่ฉี จากฝ่ายประชาสัมพันธ์ ชี้แจงว่า แม้ตู้เย็นจะมีอุณหภูมิต่ำ แต่ไม่ได้มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค จึงต้องระวังเชื้อโรค 4 ชนิดที่พบได้ในตู้เย็น ได้แก่ เชื้อซัลโมเนลลา เชื้อบาซิลลัสที่ทำให้เกิดบิด เชื้อชิเกลลา และเชื้อลิสทีเรีย ซึ่งอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะโลหิตเป็นพิษ

อาหาร 3 ประเภท ที่ไม่ควรเก็บในตู้เย็นเป็นเวลานาน ได้แก่ 1.อาหารประเภทแป้งและธัญพืช 2.อาหารทะเลและอาหารจากน้ำจืด 3.ถั่วและเมล็ดพืชเปลือกแข็ง

เนื่องจากถั่วและอาหารประเภทแป้ง มีความเสี่ยงต่อการขึ้นรา เมื่อเก็บไว้นานในตู้เย็นอาจเกิด อะฟลาทอกซิน ซึ่งเป็นสารพิษ หากบริโภคเข้าไปอาจทำให้เกิดพิษหรือเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้

ส่วน อาหารทะเล หากเก็บไว้นานเกินไป โปรตีนที่ละลายในเกลือจะสลายตัว ส่งผลให้ร่างกายได้รับสารพิษ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการปนเปื้อน เชื้อลิสทีเรีย ซึ่งอาจนำไปสู่พิษอาหาร ท้องเสีย หรือแม้แต่เยื่อหุ้มสมองอักเสบที่เป็นอันตรายร้ายแรง