จากกรณีเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา ได้มีคลิปโซเชียล แชร์พระภิกษุเอะอะโวยวายใส่ตำรวจพระ หลังไปตรวจสอบบริเวณตลาดวิบูลย์ศรี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ขณะที่พระรูปดังกล่าว ถือไม้พยุง ปิดตาเดินบิณฑบาต ขอเรี่ยไรเงิน ทีมข่าวไม่รอช้าไปตามหา แต่ไม่พบพระรูปนี้แล้ว จึงไปพูดคุยกับ เฮียโต เจ้าของร้านขายของชำ บอกว่า เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พระรูปนี้เดินมาที่ร้านข้าวหน้าเป็ด ขอฉันข้าวที่ร้าน พอฉันเสร็จ ก็บอกกับทางร้านว่า ให้ช่วยทำบุญถวายปัจจัยซื้อจีวรใหม่ เพราะมีชุดเดียว
ด้านตำรวจสมุทรปราการ ให้ข้อมูลว่า พระรูปนี้เคยถูกพระวินยาธิการ หรือ ตำรวจพระ จับกุมเรี่ยไรเงิน และสึกมาแล้วครั้งหนึ่ง ที่ย่านพระประแดง ในภาพคือ แกล้งพิการทางขา ใช้ไม้ค้ำ เดินเรี่ยไรเงิน ต่อมาทราบว่าไปบวชใหม่ที่วัดป่าในจังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อเดือนสิงหาคม แต่คนละนิกาย เท่านั้นยังไม่พอ มีประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิตเวช ทำได้เพียงส่งพระรูปนี้กลับวัดต้นสังกัด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. เพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทริน์ part 6 ได้โพสต์คลิป พระสงฆ์พิการรูปดังกล่าว ได้กลับมาโผล่กลางกรุง พร้อมระบุข้อความว่า “…พระปลอมถูกจับสึกไปตั้งหลายครั้ง เป็นข่าวเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ลีลาครั้งนี้จัดเต็ม มาโผล่กลางเมืองอีก เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องจัดการเด็ดขาด เสื่อม ขอบคุณคลิป ตต….”
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าพบ พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยพระพยอม กล่าวว่า ตนอยากขอให้ท่าน รองศาสตราจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เคยพูดกล่าวไว้ว่าจะจัดการเรื่องศาสนาให้ดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความประพฤติของพระภิกษุสงฆ์ ประเภทไปก่อกวนญาติโยมเรี่ยไรเงิน
พระพยอม กล่าวอีกว่า พระพุทธเจ้านั้น ไม่ได้ให้พระภิกษุนั้นเป็นคนขี้ขอ จะฝากถึงญาติโยมที่มีความศรัทธา จะต้องมีปัญญาด้วย อย่าให้โดยง่ายดาย ใช้สติปัญญา ให้กับคนไม่ดี เหมือนสนับสนุนให้คนมาปล้นศาสนา ทุกวันนี้ก็มีหลายรูปแบบ โดยเฉพาะกรณีนี้ แกล้งทำเป็นพิการ หากยังให้ง่ายๆ อยู่ “เปรตในผ้าเหลือง” ก็มาหากินในศาสนามากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าคนไทยใจดี ชาวพุทธชอบให้ ไม่พอยังอ้างตัวเป็นนิกายธรรมยุตอีก ซึ่งพฤติกรรมตรงกันข้ามกับจุดประสงค์พฤติกรรมที่มีประวัติเรี่ยไร นิกายนี้เคร่ง แต่ตัวเองทำหย่อนยาน.