“สรวงศ์” ให้กำลังใจ “มาดามแป้ง” หลังศาลสั่งชดใช้สยามสปอร์ต 360 ล้านบาท เชื่อไม่กระทบภาพลักษณ์วงการฟุตบอลไทย ลั่นพร้อมเป็นตัวกลางช่วยประสานผ่อนชำระ ยืนยันสมาคมฟุตบอลเป็นผู้รับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศน์กลาง ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีลิขสิทธิ์และสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ ระหว่างบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ชดใช้ค่าเสียหายแก่ บมจ.สยามสปอร์ตฯ เป็นเงิน 360 ล้านบาทนั้น
ช่างภาพพีพีทีวี
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย
โดย นายสรวงศ์ ระบุว่า เมื่อวานนี้ได้ส่งข้อความไปให้กำลังใจนางนวลพรรณ ล่ำซำ หรือมาดามแป้ง ในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตนรู้สึกเห็นใจเพราะอย่างที่ทุกคนทราบดีว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนหน้าที่มาดามแป้งจะเข้ารับตำแหน่ง แต่เพื่อศาลวินิจฉัยออกมาแบบนี้สมาคมก็ต้องรับผิดชอบในส่วนของสมาคม ส่วนเรื่องของการฟ้องร้อง ก็เป็นหน้าที่ของสมาคมที่จะต้องดำเนินการต่อไปซึ่งตอนนี้ก็คาดว่ามาดามแป้งน่าจะอยู่ในช่วงระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องร้องดำเนินคดี สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต
ส่วนกรณีที่มาดามแป้ง ระบุว่าสมาคมฯ เหลืองบประมาณอยู่ 20 กว่าล้าน แต่หนี้มีถึง 600-700 ล้านบาท นายสรวงศ์ เผยว่าเรื่องนี้ทาง มาดามแป้ง ในฐานะนายกสมาคม นั้นยังไม่ได้ร้องขอเรื่องหนี้เข้ามา เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่อะไรที่กระทรวงและรัฐบาลสามารถดูแลและช่วยเหลือภาพรวมของฟุตบอลไทยได้ก็จะทำ ต้องดูว่าคำขอของสมาคมฟุตบอล เป็นอย่างไร ตามคำพิพากษาสมาคมฟุตบอล ต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการชำระค่าเสียหาย แต่อาจจะมีการฟ้องร้องผู้ที่รับผิดชอบเดิม ให้มารับผิดชอบในส่วนนี้
ส่วนที่มีคำถามที่เป็นข้อกังวลว่าอาจจะกระทบกระเทือนกับภาพลักษณ์ของวงการฟุตบอลไทยหรือไม่ นายสรวงศ์ มองว่า เรื่องนี้ไม่น่าเกี่ยวกับตัวกีฬา นักกีฬา และผู้บริหารสมาคมฯ ในปัจจุบัน ต้องดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเป็นอย่างไร ทำผิดสัญญากันอย่างไร อาจมีการพูดคุยประนีประนอม แต่เรื่องการเสียชื่อถึงวงการฟุตบอลไทย ไม่น่าจะเกิดขึ้น
โดย นายสาวงศ์ กล่าวต่อว่า ก่อนที่ตนเองจะเข้ามารับตำแหน่งก็ได้รับทราบจากสื่อมวลชนว่า มีการท้วงติงเรื่องการปฎิบัติหน้าที่ของพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคมฟุตบอล อยู่บ้าง ในเรื่องของการปฎิบัติหน้าที่แต่ก็ต้องดูกันต่อว่าในเรื่องของคดีความเป็นอย่างไรมีการฟ้องร้องหรือการร้องเรียนกันอย่างไรซึ่งก็ต้องดูตามเนื้องานแต่เมื่อคำพิพากษา ออกมาเช่นนี้สมาคมฟุตบอลก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
ส่วนจะมีการเรียกทางด้านของ นายกนายกสมาคมฟุตบอลคนปัจจุบันและคนอดีตมาพูดคุยกันหรือไม่ในเรื่องนี้ตนมองว่า เรื่องนี้เกินการพูดคุยกันแล้วเพราะมีคำพิพากษาของศาลส่วนในเรื่องของการตัดสินการที่จะชดใช้ตนมองว่าเรื่องของกระทรวงอาจจะสามารถเป็นคนกลางที่จะช่วยพูดคุยในการประนีประนอมเพื่อผ่อนชำระได้อยู่แต่ในกรณีเรื่องของผู้รับผิดชอบอย่างอย่างไรก็ตามก็ต้องเป็น สมาคมฟุตบอล
