มาร์เก็ตเพลส

มติเอกฉันท์ไล่ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ออกจากราชการ งดบำเหน็จ-บำนาญ
March 8, 2025

มติเอกฉันท์ไล่ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ออกจากราชการ งดบำเหน็จ-บำนาญ

วันนี้ (7 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีรายงานว่า พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาโทษที่มีรอง ผบ.ตร.ทุกคน เป็นกรรมการ เพื่อพิจารณาโทษวินัยร้ายแรงของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.กรณีพัวพันเว็บพนันผิดกฎหมาย โดย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้เข้าร่วมประชุม

มีรายงานว่าที่ประชุมมติเอกฉันท์ไล่ออก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ พร้อมงดบำเหน็จบำนาญ หลังจากนี้จะทำเรื่องเสนอ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เพื่อพิจารณาลงนามในคำสั่งต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 125 บัญญัติไว้ว่าข้าราชการตำรวจที่กระทำผิดวินัยร้ายแรงเมื่อผู้มีอำนาจในที่นี้ คือ ผบ.ตร.จะสั่งลงโทษทางวินัยร้ายแรง ซึ่งมี 2 สถานคือ ปลดออก ไล่ออก

ทั้งนี้ ตามขั้นตอน ผบ.ตร.จะสั่งทันทีไม่ได้ จะต้องตั้งคณะกรรมการพิจารณาโทษ เพื่อเสนอแนะว่าต้องลงโทษสถานใด ระหว่างปลดออก ไล่ออก เมื่อพิจารณาแล้วได้ความว่าอย่างไรจะต้องเสนอแนะ ผบ.ตร.ในฐานะผู้มีคำสั่งแต่งตั้ง จากนั้น ผบ.ตร.จะต้องออกคำสั่งตามที่คณะกรรมการพิจารณาได้เสนอ

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ สามารถอุทธรณ์คำสั่ง ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ได้ หาก ก.พ.ค.ตร.ยืนตามคณะกรรมการวินัย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยังสามารถใช้สิทธิฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป ซึ่งหากศาลปกครองสูงสุดยืนตาม ก.พ.ค.ตร. ก็จะทำให้คดีวินัยถึงที่สุดก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการพิจารณาถอดยศตำรวจต่อไป


บทความเพิ่มเติม