มาร์เก็ตเพลส

อ้างเป็น “คลิปหลุด ลำไย” ว่อนเน็ต เตือนภัย! ห้ามกดลิงก์เด็ดขาด มิจฉาชีพทั้งนั้น
March 7, 2025

เตือนภัยอ้างเป็น “คลิปหลุด ลำไย” ว่อนเน็ต ห้ามกดลิงก์เด็ดขาด เป็นลิงก์มิจฉาชีพ

จากกรณีข่าวดรามาเกี่ยวกับนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ลำไย ไหทองคำ และบอสแดนเซอร์ชาย ซึ่งมีหลายประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ ขณะเดียวกันก็มีมิจฉาชีพที่อาศัยช่องว่างนี้ในการเผยแพร่คอนเทนต์ลามกอนาจาร โดยการใช้คลิปต่างๆ เช่น คลิปจากหนังโป๊หรือคลิปต่างประเทศมาแอบอ้างว่าเป็น “คลิปหลุด ลำไย” ซึ่งเป็นคำค้นหาที่ได้รับความนิยมในขณะนี้ เพื่อหลอกลวงผู้คนโดยแนบลิงก์มิจฉาชีพ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกมาเตือนภัย หลังพบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพที่มุ่งเป้าไปยังผู้ที่มีความสนใจในพฤติกรรมกามารมณ์ โดยใช้วิธีหลอกลวงต่างๆ เพื่อแสวงหาประโยชน์ทั้งทางการเงินและทางเพศจากผู้เสียหาย

มิจฉาชีพที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มผู้สนใจในเนื้อหาทางเพศ มักจะใช้ 4 รูปแบบดังนี้:

หลอกโอนเงินค่าซื้อ-ขายบริการทางเพศ – ในรูปแบบเพจหรือกลุ่มลับที่เสนอการซื้อขายบริการทางเพศ เมื่อเหยื่อเลือกแล้ว คนร้ายจะขอให้โอนเงินล่วงหน้า เช่น ค่าห้องหรือค่าจองเวลา
หลอกถ่ายคลิปลามกอนาจาร – มิจฉาชีพจะสร้างความสัมพันธ์ออนไลน์และชักชวนให้วิดีโอคอลขณะสำเร็จความใคร่ จากนั้นใช้คลิปดังกล่าวมาข่มขู่เพื่อเรียกร้องเงิน
หลอกชวนมีเพศสัมพันธ์ – จะใช้บัญชีหนุ่มหล่อสาวสวยแสดงความสนใจและนัดพบเพื่อหลับนอน ซึ่งอาจจะนำไปสู่การชิงทรัพย์ ข่มขืน หรือการแอบถ่ายคลิป
หลอกขายภาพ-คลิปลามก – กลุ่มลับหรือเพจจะเสนอขายภาพหรือคลิปลามก เมื่อเหยื่อจ่ายเงินไปแล้วกลับไม่ได้รับสิ่งที่คาดหวัง แต่กลับถูกเรียกร้องเงินเพิ่ม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอให้ประชาชนระมัดระวังและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพดังกล่าว พร้อมเตือนให้สอดส่องดูแลบุตรหลานและบุคคลในครอบครัวที่เสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมเหล่านี้

หากมีความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับผู้ที่นำข้อมูลหรือคลิปที่เกี่ยวข้องกับ “คลิปหลุด ลำไย” หรือข้อมูลลามกอนาจารมาเผยแพร่ โดยไม่ว่าจะเป็นคลิปจริงหรือหลอกลวง การกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา ในฐานความผิดหมิ่นประมาท และยังสามารถถูกดำเนินคดีภายใต้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

ตาม มาตรา 14 (2) ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กำหนดว่า “ผู้ใดนำข้อมูลที่เป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน” จะต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หากผู้กระทำผิดเผยแพร่ข้อมูลลามกอนาจารเกี่ยวกับบุคคลอื่น อาจมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท ตาม มาตรา 287 ของประมวลกฎหมายอาญา

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกลวงหรือตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ จึงขอให้ทุกคนใช้ความระมัดระวังในการคลิกหรือเปิดลิงก์ที่ได้รับจากแหล่งที่ไม่รู้จัก.


บทความเพิ่มเติม