หญิงวัย 58 ปี เชื่อว่าการทำเล็บช่วยชีวิตเอาไว หลังรู้ความหมายของเส้นสีดำบนหัวแม่มือ ที่แท้คือ “มะเร็งผิวหนัง” ระยะศูนย์
มิเชล ทาเกลียมอนเต หญิงชาวอเมริกันจากเซ็นเตอร์วิลล์ รัฐโอไฮโอ วัย 58 ปี เผยว่า เธอไม่อยากนึกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากไม่ได้ทำเล็บเป็นประจำทุกเดือน และเธอเชื่อว่าการทำเล็บทุกเดือน “ช่วยชีวิตไว้” หลังพบเส้นสีดำประหลาดบนหัวแม่มือ
มิเชล เล่าว่า เธอสังเกตเห็นความผิดปกติครั้งแรกระหว่างทำเล็บเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว และเมื่อถึงเวลานัดครั้งต่อไป เส้นเหล่านั้นก็ยังไม่หายไป เมื่อผ่านไป 4 สัปดาห์แต่เส้นสีดำยังไม่จางลง เธอจึงตัดสินใจพบแพทย์เพื่อตรวจเช็ก
“ปกติฉันทำเล็บทุก 4 สัปดาห์ เลยไม่แน่ใจว่ามันอยู่มานานแค่ไหน แต่เล็บฉันยาวเร็วเพราะโภชนาการดีมาก มันอาจจะอยู่มาแล้ว 6 เดือน หรืออาจนานกว่านั้นก็ได้ ฉันไม่รู้เลย ฉันถ่ายรูปเส้นพวกนั้นไว้ แล้วก็ตัดสินใจไปทำเล็บ”
เมื่อถึงเวลาทำเล็บครั้งถัดไปในเดือนตุลาคม เส้นสีดำยังคงอยู่และดูเหมือนจะเกิดขึ้นจากโคนเล็บ มิเชลจึงตัดสินใจไปพบแพทย์
“ฉันรู้ผลประมาณช่วงวันขอบคุณพระเจ้าว่ามันคือมะเร็งผิวหนัง” คุณแม่ลูกสองกล่าว พร้อมเผยว่าแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นระยะศูนย์
ตามข้อมูลจาก Cancer Research UK มะเร็งระยะศูนย์ หรือที่เรียกว่า melanoma in situ หมายถึง เซลล์มะเร็งยังอยู่เฉพาะในชั้นบนสุดของผิวหนัง หรือชั้นหนังกำพร้า แม้เซลล์เหล่านี้จะเป็นมะเร็งและมีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งชนิดลุกลามได้ แต่ไม่สามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย การรักษาหลักสำหรับมะเร็งชนิดนี้คือการผ่าตัดเพื่อนำเซลล์มะเร็งออก
ในกรณีของมิเชล แพทย์ต้องผ่าตัดเล็บหัวแม่มือออกถาวร พร้อมปลูกถ่ายผิวหนัง ในการผ่าตัดที่ใช้เวลานานถึงสี่ชั่วโมง เมื่อวันที่ 17 มกราคมปีนี้
เธออธิบายว่า “แพทย์ผิวหนังพบความผิดปกติที่โคนเล็บ และเส้นสีดำนี้เกิดจากความผิดปกติภายในเนื้อเยื่อเล็บของฉัน”
เมื่อต้องเสียเล็บไป เธอเผยความรู้สึกว่า “ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย ตอนแรกมั่นใจมากว่าไม่มีอะไรน่ากังวล พอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งผิวหนัง ฉันตกใจมาก”
นี่จึงเป็นเหตุผลที่มิเชลรู้สึกขอบคุณอย่างมากที่เธอไม่ละเลยการทำเล็บ เพราะการสังเกตเห็นความผิดปกติระหว่างทำเล็บช่วยให้เธอพบมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
“การนัดทำเล็บช่วยชีวิตฉันไว้จริง ๆ” เธอกล่าว “ฉันดีใจที่สังเกตเห็นความผิดปกติและตัดสินใจไปตรวจ”
ระหว่างการผ่าตัด ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมือได้นำผิวหนังจากส่วนล่างของหัวแม่มือมาใช้ปลูกถ่ายปิดเส้นเอ็นและกระดูกที่ถูกเปิดออกหลังจากเล็บถูกนำออก
“สิ่งที่ฉันกังวลที่สุดคือขั้นตอนการผ่าตัดและสิ่งที่พวกเขาต้องทำเพื่อกำจัดมะเร็งออกไป” เธอกล่าว “มันน่ากลัวมาก”
มะเร็งอยู่ลึกถึงแผ่นเนื้อเยื่อเล็บและลามไปจนถึงข้อนิ้วแรก ซึ่งเป็นจุดที่แพทย์ต้องผ่าตัดออก
“การปลูกถ่ายผิวหนังเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างใหญ่ ฉันจะไม่มีเล็บหัวแม่มืออีกต่อไป แต่ถ้าฉันปล่อยไว้ อาจต้องเสียปลายนิ้วหรือแย่กว่านั้น ดังนั้นฉันรู้สึกขอบคุณมาก และตอนนี้แผลกำลังหายดี”
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
โชคดีที่เธอไม่เกิดความเสียหายถาวรต่อเส้นประสาท และสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับเธอคือการต้องใช้มือซ้ายแทนมือขวา
“ช่วง 2 สัปดาห์แรก ฉันติดกระดุมกางเกงเองไม่ได้ ใส่บราเองก็ไม่ได้” มิเชลเล่าย้อนความหลัง “ฉันรู้สึกขอบคุณมากที่พบมะเร็งในระยะศูนย์ และมันยังไม่ลุกลาม”
“สิ่งสำคัญคือเราต้องใส่ใจและไปตรวจเช็ก ฉันอยากบอกทุกคนว่า ถ้าเห็นอะไรแปลกไปจากปกติ จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองแล้วรีบไปพบแพทย์ ถ้าฉันกลัวที่จะตรวจเล็บและไม่ยอมตัดมันออก ใครจะรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร”
แม้เส้นสีดำบนเล็บอาจเกิดจากเรื่องเล็ก ๆ อย่าง splinter haemorrhage (เส้นเลือดฝอยแตกใต้เล็บ) แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงได้เช่นกัน
ตามข้อมูลจาก Healthline หากพบเส้นหรือแถบสีดำบนเล็บ ควรไปพบแพทย์ โดยเฉพาะหากเกิดบนหัวแม่มือหรือหัวแม่เท้าของข้างที่ถนัด
“หากผิวหนังรอบเล็บคล้ำขึ้น อาจหมายถึงมะเร็งอยู่ในระยะลุกลาม” Healthline อธิบายเพิ่มเติม “บางกรณี เล็บอาจแยกออกจากเนื้อเล็บหรือแตกเป็นสองส่วน”
เรื่องของมิเชลจึงไม่ใช่แค่คำเตือนให้ใส่ใจสุขภาพ แต่ยังเป็นเหตุผลดี ๆ ที่จะทำให้ผู้คนไม่ลืมดูแลเล็บของตัวเอง
