มาร์เก็ตเพลส

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568

เบรนท์ฟอร์ด – เอฟเวอร์ตัน (02:30 น.)
เบรนท์ฟอร์ด จะขาดกัปตันทีมแบบ คริสเตียน นอร์การ์ด หลังพบกับอาการคอนคัสชั่นจากเกมชนะ เลสเตอร์

นอกนั้นพวกเขายังมีขุมกำลังชุดเดิมให้เลือกใช้งานสำหรับนัดนี้

เอฟเวอร์ตัน คาดหมายว่าจะได้ เยสเปอร์ ลินดสตรอม กลับมาพร้อมลงแม้จะโดนเปลี่ยนตัวออกในเกมเมื่อสุดสัปดาห์เพราะมีไข้

ถึงอย่างนั้นพวกเขายังขาดนักเตะไปถึง 8 รายด้วยกัน

เบน ฟรีคิกฟันธง : เบรนท์ฟอร์ด ชนะ 1-0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – อิปสวิช ทาวน์ (02:30 น.)
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีขุมกำลังชุดเดียวจากเกมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

เท่ากับว่าพวกเขายังขาดนักเตะไปถึง 8 ราย ส่วนคนที่ใกล้จะคัมแบ็คมากที่สุดนั้นน่าจะเป็น โทบี้ คอลเยอร์ กองกลางดาวรุ่ง

อิปสวิช จะไม่มีสองกองกลางแบบ แคลวิน ฟิลลิปส์ และ เยนส์ คายุสเต้ หลังถูกส่งตัวเข้าตรวจอาการจากที่โดนเปลี่ยนออกในเกมล่าสุด

นอกนั้นพวกเขายังคงไม่มี ฮูลิโอ เอนซิโซ่ ให้ใช้งานเหมือนเดิม

เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– แมนฯ ยูไนเต็ด ไร้พ่ายตลอด 7 นัดหลังสุดที่เปิดรังเหย้าพบ อิปสวิช ในพรีเมียร์ลีก โดยที่ยิงรวมไปถึง 15 ลูกและไม่เสียประตูเลย

– ทั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงประตูในครึ่งแรกได้แค่ลูกเดียวจากการลงเล่น 17 เกมหลังสุดในทุกรายการ ประตูที่ว่าคือจุดโทษของ บรูโน่ แฟร์นานเดส ในเกมพ่าย ไบรท์ตัน

เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 1-1

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ – อาร์เซน่อล (02:30 น.)
ฟอเรสต์ จะต้องประเมินความพร้อมของนักเตะบางรายที่มีปัญหาเจ็บเล็กน้อยติดตัว

ไทโว อโวนิยี่ ก็กลับมาเป็นสำรองตั้งแต่เกมพ่าย นิวคาสเซิ่ล เมื่อสุดสัปดาห์ หลังฟื้นตัวจากอาการคอนคัสชั่น

ส่วนทางด้าน อาร์เซน่อล จะมี อีธาน วาเนรี ให้เลือกใช้งานหลังถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมแพ้ เวสต์แฮม เมื่อวันเสาร์เพราะตะคริว

เกมนั้น เบน ไวท์ ยังกลับมาลงสนามในฐานะสำรองแต่พวกเขาจะขาด ไมล์ส ลูวิส-สเคลลี่ ที่ติดโทษแบน นอกนั้น บูคาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ก็ยังไม่พร้อมคัมแบ็ค

เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– ฟอเรสต์ แพ้ไปถึง 7 จาก 8 เกมหลังสุดที่พบกับ อาร์เซน่อล ยกเว้นเกมที่พวกเขาเอาชนะได้ในเดือนพฤษภาคม 2023

– สถิติไร้พ่ายของ อาร์เซน่อล ที่นาน 15 นัดติดในลีกถูก เวสต์แฮม หยุดลงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่พวกเขาไม่แพ้เกมลีก 2 นัดติดมานับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023

เบน ฟรีคิกฟันธง : ฟอเรสต์ ชนะ 1-0

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (02:30 น.)
สเปอร์ส ไม่ได้คาดหมายว่าจะมีนักเตะบาดเจ็บที่หายกลับมาทันเวลาสำหรับเกมนี้ แต่อย่างน้อย ทิโม แวร์เนอร์ กลับมาซ้อมแล้ว

มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น, โดมินิก โซลันกี้, คริสเตียน โรเมโร่ และ ริชาร์ลิซอน อาจจะพร้อมในเกมเหย้านัดถัดไปที่จะพบกับ บอร์นมัธ วันที่ 9 มีนาคม

แมนฯ ซิตี้ ยังต้องรอดูอีกทีว่า เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ จะพร้อมกลับมาช่วยทีมหรือยัง หลังพักไป 2 นัดเพราะมีปัญหาที่หัวเข่ารบกวน

จอห์น สโตนส์, มานูเอล อคานยี, ออสการ์ บ็อบบ์ และ โรดรี้ ยังคงกลับมาลงเล่นไม่ได้

เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– สเปอร์ส มีโอกาสชนะ แมนฯ ซิตี้ แบบไป-กลับในซีซั่นเดียวโดยที่ไม่เสียประตูได้เป็นหนแรกในรอบ 15 ปี หลังจากนัดแรกที่พบกันในซีซั่นนี้ชนะไป 4-0

– สเปอร์ส คว้าชัยชนะ 3 นัดติดต่อกันในลีกได้เป็นหนแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023

– แมนฯ ซิตี้ พบกับความพ่ายแพ้ไปถึง 14 นัดจากการลงสนาม 27 เกมหลังสุดในทุกรายการ

– แมนฯ ซิตี้ ยังตามหลังจ่าฝูงไกลถึง 20 แต้มในเวลานี้ นับว่าเป็นการตามหลังจ่าฝูงไกลที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2020

เบน ฟรีคิกฟันธง : แมนฯ ซิตี้ ชนะ 2-0

ลิเวอร์พูล – นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (03:15 น.)
ลิเวอร์พูล น่าจะมี อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ให้เลือกใช้งานเหมือนเดิมแม้จะได้รับรอยฟกช้ำบนใบหน้ามาจกาเกมเมื่อสุดสัปดาห์

คอนเนอร์ แบรดลี่ย์ จะต้องพักรักษาตัวราวๆ 2-3 สัปดาห์เพราะอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ

นิวคาสเซิ่ล อาจจะได้ทั้ง สเวน บ็อตมัน และ โชเอลินตอน กลับมาจากอาการบาดเจ็บหัวเข่าที่ทำให้พวกเขาอดลงสนามมาตั้งแต่ต้นเดือน

ซานโดร โตนาลี ที่กลับมาฟิตอีกครั้งก็ได้ลงเล่นเป็นสำรองในเกมชนะ ฟอเรสต์ เมื่อสุดสัปดาห์

เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– ลิเวอร์พูล ไร้พ่ายเกมลีกเวลาลงสนามพบ นิวคาสเซิ่ล ที่ แอนฟิลด์ มา 28 เกมติดต่อกันแล้ว หนสุดท้ายที่พวกเขาแพ้คาบ้านต่อ นิวคาสเซิ่ล ต้องย้อนไปปี 1994 (ชนะ 23 เสมอ 5)

– นิวคาสเซิ่ล ยังไร้ชัยชนะในการเจอกับ ลิเวอร์พูล มา 16 เกมรวดในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ตอนที่เอาชนะพวกเขาได้ที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในเดือนธันวาคม 2015 (เสมอ 5 แพ้ 11)

– ลิเวอร์พูล ยิงอย่างน้อย 2 ประตูตลอดการเล่นเกมเหย้า 17 นัดหลังสุดในทุกรายการ ไม่มีทีมจากอังกฤษทีมไหนที่ทำได้ต่อเนื่องนานขนาดนี้นับตั้งแต่ที่ ซันเดอร์แลนด์ ทำไว้ 19 นัดในปี 1935

– ฤดูกาลนี้ นิวคาสเซิ่ล คัมแบ็คกลับมาเก็บไปได้ 18 แต้มจากการตกเป็นฝ่ายตามหลัง มากเท่ากับ วิลล่า ก่อนหน้าการลงสนามกลางสัปดาห์นี้

เบน ฟรีคิกฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0