เมื่อวันที่ 20 ก.พ. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี พี่สาวของ ด.ช.บี (นามสมมุติ) อายุ 5 ขวบ พร้อมคุณปู่ เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ที่เพื่อให้ช่วยตามหาพ่อและน้องชายวัย 5 ขวบ หลังจากฉุดกระชาก ด.ช.บี ช่วงที่พี่สาวขายของอยู่บริเวณตลาดนัดที่แฟลตทหารเรือ สุขสวัสดิ์ 26 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม. ซึ่งเป็นการขัดคำสั่งศาล ทางคุณปู่พยายามเข้าไปห้ามปรามแต่กลับโดนผลักล้มจนข้อศอกซ้ายได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะขี่จยย. สีขาว ทะเบียน 5ขล 954 กรุงเทพมหานคร ออกจากตลาดไป ทั้งพี่สาวและคุณปู่ ต่างหวั่นเกรงความปลอดภัยและกลัวจะถูกนำไปเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่ ตระเวนไปโดยไม่มีจุดหมายตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา

ด้านนางปวีณา กล่าวว่า พี่สาวได้ร้องทุกข์มาที่มูลนิธิปวีณาฯ เพราะเป็นห่วงน้องชายมาก วันนี้มูลนิธิปวีณาฯ จึงได้ประสาน น.ส.แรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และได้มอบหมายให้นางสุวิมล น้อยใจรักษ์ ผอ.กองการส่งเสริมสถาบันครอบครัว กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ นางสาวกุลจิรา โฉมไสว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร มาประชุมที่มูลนิธิปวีณาฯ โดยมีพี่สาว และปู่ เข้าร่วมประชุมด้วย
จากนั้น นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.วัชรพล สุวนันทวงศ์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ ให้ช่วยติดตามพ่อกับน้องชายวัย 5 ขวบ มาเพื่อทำความเข้าใจ หากพบตัวแล้วจะต้องมาพูดคุยกันในเรื่องสวัสดิภาพของเด็กเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง เนื่องจากก่อนหน้านี้ พ่อเคยพาน้องหนีไปครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ยื่นขอคุ้มครองสวัสดิภาพต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 67 ซึ่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมีคำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กชายวัย 5 ขวบ เป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง 25 พ.ย. 67 โดยมีคำสั่งดังนี้

(1) ห้ามพ่อทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ และกระทำการใดๆ อันเป็นการข่มขู่คุกคามผู้ร้องกับบุคคลในครอบครัว ไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ
(2) ห้ามพ่อก่อความวุ่นวายไม่ว่าในทางใดๆ อันมีลักษณะเป็นการรบกวนการอยู่อาศัยโดยปกติสุขของผู้ร้องและบุคคลในครอบครัว
(3) ห้ามพ่อทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า ทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้ร้องหรือบุคคลในครอบครัว
(4) ห้ามพ่อเข้าใกล้ผู้ร้อง และบุคคลในครอบครัวในระยะ 50 เมตร ยกเว้นแต่ได้รับความยินยอม หลังจากครบ 6 เดือน ตามคำสั่งศาลแล้ว ผอ.กองการส่งเสริมสถาบันครอบครัว กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว จะทำการประเมินรายงานต่อศาลอีกครั้งหนึ่ง แต่เพิ่งคุ้มครองได้เพียง 3 เดือน แต่พ่อไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ครั้งนี้หากได้พบติดตามตัวได้ จึงต้องเร่งติดตามตัวให้เร็วเพื่อทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย และให้น้อง 5 ขวบ ได้มีสุขภาพจิตที่ดี ได้เรียนหนังสือ โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามร่วมกับ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร และตำรวจให้ความช่วยเหลือครอบครัวนี้และประเมิน ซึ่งจะต้องมาพูดคุยกันในเรื่องสวัสดิภาพของเด็กเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง

นางสาวสุวิมล น้อยใจรักษ์ ผอ.กองการส่งเสริมสถาบันครอบครัว กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า มีหน่วยงานที่จะดำเนินการเพื่อติดตามเด็กที่หายไป จะต้องมีกระบวนการที่จะติดตาม พูดคุย และตรวจสุขภาพ ทั้งทางร่างกายและจิตใจของทุกคนในครอบครัว ว่าจะในเรื่องของการประสานส่งต่อ ถ้าหากพบว่ามีบุคคลที่จะต้องไปพบแพทย์ ทั้งร่างกายและจิต ซึ่งการปฏิบัติตามคำสั่งศาลเราก็จะต้องพูดคุยกับพ่อกันอีกครั้งว่าเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งแรกนั้นเป็นความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งทั้งหมดที่มานั้นเป็นคนในครอบครัว อันนี้ก็เป็นเป้าหมายหลักที่ทาง พม. จะต้องทำความเข้าใจพูดคุยและตกลงกัน โดยทางคุณพ่อใช้ความรุนแรงทำร้ายพี่สาว ส่วนในเรื่องของการเสพสารเสพติดนั้น ทาง พม. เรายังไม่ได้เจอตัวคุณพ่อ ซึ่งต้องเจอตัวก่อนซึ่งจะนำไปตรวจร่างกายและตรวจสุขภาพจิต และจะได้ประสานส่วนอื่นๆ ต่อไป.