ปล่อยให้รอมาตั้งนานเมื่อสมาคมฟุตบอลอังกฤษยืนยันว่าระบบจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติจะถูกนำมาใช้ในเกมเอฟเอ คัพรอบ 5 ซึ่งจะเป็นครั้งแรกของฟุตบอลแดนผู้ดี
เทคโนโลยีจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติถูกใช้มาตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2022 อีกทั้งแชมเปี้ยนส์ลีกก็ใช้ระบบนี้อยู่เป็นประจำ ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนและระยะเวลาของการจับล้ำหน้า
พวกเขามีแผนเอาระบบดังกล่าวมาใช้ในฟุตบอลอังกฤษได้สักพักแล้วแต่โดนเลื่อนมาเรื่อยๆ กระนั้นเอฟเอเปิดเผยว่าพวกเขาจะเริ่มลองใช้ระบบการจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติในเอฟเอ คัพรอบ 5
แล้วหากการทดลองประสบความสำเร็จ พรีเมียร์ลีกก็จะหาทางนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในลีกสูงสุดแดนผู้ดีก่อนที่จะจบฤดูกาล
เทคโนโลยีจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติได้รับการอนุมัติจากสโมสรในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่เดือนเมษายนปีก่อน และทีแรกวางเป้าหมายไว้ว่าจะเริ่มใช้ในช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าจนกระทั่งตอนนี้
ระบบนี้จะถูกนำมาใช้ใน 7 จาก 8 เกมของรอบ 5 ยกเว้นแค่คู่ของ เปรสตัน พบกับ เบิร์นลี่ย์ เพราะเป็นคู่เดียวที่ไม่ได้ลงเล่นในสนามของทีมพรีเมียร์ลีก
“เทคโนโลยีจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการตีเส้นล้ำหน้า, จากการจับการเคลื่อนไหวของนักเตะ, และเปลี่ยนเป็นภาพกราฟฟิคที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ของแฟนบอลทั้งสนามและที่ดูถ่ายทอดสด” เอฟเอ กล่าว
“ระบบจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติไม่ได้เปลี่ยนแปลงความแม่นยำในการตัดสิน แต่ช่วยเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพของขั้นตอนการตัดสิน”
นอกเหนือจากระบบจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติแล้ว VAR ก็จะถูกนำมาใช้ในเอฟเอ คัพทุกคู่ของรอบถัดไปด้วย จากที่ไม่ได้นำมาใช้ในรอบก่อนหน้านี้
อีกสิ่งหนึ่งที่จะถูกเพิ่มเข้ามาพร้อมกับ VAR นั้นคือกรรมการจะต้องพูดอธิบายการตัดสินให้แฟนบอลในสนามทราบ หลังจากมีการใช้ VAR ย้อนเช็คจังหวะปัญหา
