กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “โชค หนึ่งในสกุลพรหมจันทร์” เจ้าของร้าน “ก๋วยเตี๋ยวพริกกะเหรี่ยง” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “มากินก๋วยเตี๋ยวทีนึง 50 บาท แต่ลักช้อนหลบทีละเป็นโหล แบบนี้กะไม่ไหว ตามหาตัวมานาน วันนี้จับได้สักที” #วังๆกันมั้งคับโจรลักช้อนระบาด
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวพริกกะเหรี่ยง บ้านเลขที่ 174/2 ถนนราษฎร์อุทิศ1 ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา พบกับนายโชค อายุ 35 ปี และ น.ส.ก้อย อายุ 32 ปี เจ้าของร้าน โดยบอกว่า เริ่มสังเกตุว่าช้อนอาหารในร้านเริ่มหายมาประมาณ 2 ปีแล้ว หายไปครั้งละเยอะๆ ตอนแรกคิดว่าอาจจะหายไปในตอนที่ล้างหรือปะปนไปกับเศษอาหาร แต่พอนานๆ ไปเริ่มหายเยอะขึ้นๆ จึงมาเริ่มสังเกตอย่างจริงจัง โดยการตั้งข้อสังเกตุเวลาลูกค้าเข้ามาทานที่ร้าน ว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ โดยเฉพาะตั้งข้อสังเกตุตามโต๊ะลูกค้าว่าแต่ละวันมีใครมานั่งทานบ้าง ซึ่งพอนึกขึ้นได้ว่า มีลูกค้าหญิงสาวคนหนึ่งมานั่งทานที่ร้านบ่อย ซึ่งพอมาทานที่ร้าน ตกเย็นก็จะเห็นว่าช้อนบนโต๊ะก็จะหายไปหมด ทั้งช้อนธรรมดาและช้อนส้อม แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิด
จนกระทั่งเมื่อวานลูกค้าคนเดิมคนนี้ก็มานั่งที่ร้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่แฟนหันไปเห็นว่าลูกค้าคนนี้หยิบช้อนใส่กระเป๋าของตัวเอง ซึ่งหลังจากทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จ ก็เดินมาจ่ายเงิน ทางร้านจึงได้ขอดูในกระเป๋าของลูกค้าคนนี้ว่าเอาอะไรไปหรือเปล่า ลูกค้าก็บอกว่าขอจ่ายเงินค่าก๋วยเตี๋ยวก่อน แต่ตอนนั้นก็สังเหตุเห็นว่าลูกค้ามือไม้เริ่มสั่น ซึ่งพอลูกค้าสแกนจ่ายเงินเสร็จ แฟนก็ได้เริ่มค้นกระเป๋า ซึ่งตอนแรกก็ไม่เจออะไร เพราะว่าลูกค้าแอบไว้ที่กระเป๋าคาดอกด้านหลัง สุดท้ายยอมจำนนด้วยหลักฐาน จากนั้นจึงเอ่ยปากขอโทษ ซึ่งทางแฟนก็ถามว่าจะเอาช้อนไปไหน แต่ลูกค้าคนนี้ก็ไม่ยอมตอบ ได้แต่ยกมือไหว้และก็หัวเราะออกมาตลอดในช่วงที่ถาม จากนั้นก็เดินออกไปจากร้านทันที
ทั้งนี้ ทางเจ้าของร้านระบุว่า ไม่ได้อยากจะเอาเรื่อง แต่แค่ต้องการจะเตือนภัยสังคมมากกว่า ว่าถ้าไปร้านไหนเจอแบบนี้ก็ให้ระวังไว้ เพราะว่าเดี๋ยวนี้ต้นทุนวัตถุดิบมันสูง ถ้าเจอลูกค้าแบบนี้หลายๆ คนก็แย่เหมือนกัน และก็ฝากถึงลูกค้าคนดังกล่าว อย่าไปทำนิสัยแบบนี้ที่ไหนอีก.
