เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่กลายเป็นไวรัลอย่างมากอยู่ในขณะนี้ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ข้อความแชร์ประสบการณ์ หลังเจ้าของโพสต์แจ้งอายัดบัตรเครดิต หลังถูกนำเลขบัตรเครดิตไปรูดใช้จ่ายที่ต่างประเทศ พอติดต่อธนาคารเพื่อจะอายัดบัตร แต่กลับได้รับใบแจ้งหนี้ตามมา อีกทั้งธนาคารยันว่าตนไม่ต้องชำระยอดดังกล่าว แต่แล้วกลับถูกธนาคารตัดเงินในบัญชี ล่าสุดเจ้าของโพสต์ให้ทนายความประจำบริษัท ทำเรื่องฟ้องร้องธนาคารแห่งหนึ่ง ข้อหายักยอกทรัพย์ ลั่นต้องต่อสู้เพื่อยุติธรรมและความถูกต้อง

โดยเจ้าของโพสต์ ระบุข้อความว่า “วันนี้มีเรื่องมาเตือนเพื่อนทุกๆท่านครับ ยาวหน่อย ช่วยอ่านให้จบนะครับ เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง ท่านที่ใช้บัตรเครดิตแล้วใช้ระบบตัดบัญชีอัตโนมัติ ขอให้ไปยกเลิกกันด้วยนะครับ เป็นบัตรเครดิตของธนาคารแห่งหนึ่ง สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 67 เวลาประมาณเย็นๆ ผมเดินเล่นอยู่ที่ห้างแห่งหนึ่ง มีเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งหนึ่งโทรมาสอบถามผม”

โดยเจ้าของโพสต์ได้สนทนากับธนาคาร ซึ่งมีดังต่อไปนี้
ธนาคาร – คุณได้ใช้บัตรเครดิตรูดที่เวียดนาม 3 ยอดไหมครับ มียอด 22,772.77 บาท 34,836.72 บาท และ 36687.83 บาท รวมยอด 94,297.12 บาท
เจ้าของโพสต์ – ผมไม่ได้ใช้ครับ ผมอยู่เมืองไทย จะไปรูดบัตรที่เวียดนามได้ยังไง
ธนาคาร – อ๋อ แบบนี้สงสัยโดนมิจฉาชีพครับ ผมจะทำการอายัดบัตรเก่า แล้วออกบัตรใหม่ให้นะครับ คุณไม่ต้องเป็นห่วงครับ
เจ้าของโพสต์ – ขอบคุณครับ

“เมื่อวันที่ 4 พ.ศ. 67 ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตของธนาคารมา มียอด 3 ยอด ที่รูดที่เวียดนามมา ผมได้โทรไปสอบถามธนาคารว่า ทำไมมียอดนี้ทั้งที่อายัดไปแล้ว เดี๋ยวจะมาตัดบัญชีผม ทั้งที่ธนาคารก็รู้อยู่แล้วว่า “ผมไม่ได้ใช้” มีการโทรมาสอบถามแล้วในวันที่บัตรโดนรูด ธนาคารตอบว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ยอดนี้ไม่ต้องจ่ายครับ” ธนาคารได้ทำการอายัดไว้เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวธนาคารจะตัดยอดค่าใช้จ่ายตามจริง ตามยอดที่ใช้จริงครับ ผมเลยบอกไปว่าห้ามตัดยอดนี้นะครับ ผมไม่ได้ใช้นะครับ ธนาคารบอกว่าไม่ตัดแน่นอนครับ เลยเชื่อใจมัน”

“เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 67 ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตของธนาคารแห่งหนึ่งมาอีก ยังคงมียอดการใช้จ่ายทีเวียดนาม 3 ยอดมาเรียกเก็บ ผมก็ได้โทรไปสอบถามธนาคารอีกว่า ทำไมยังมียอดเรียกเก็บมาอีก เจ้าหน้าที่ธนาคารตอบกลับมาว่า “คุณไม่ต้องเป็นห่วงครับ ยอดมันยังขึ้นอยู่ในระบบ แต่เราจะไม่เรียกเก็บครับ ไม่เชื่อคุณดูเดือนที่แล้วได้ เราไม่ได้ตัดยอดนี้ 3 ยอด เราตัดตามยอดที่คุณนรินทร์ใช้จ่ายจริง คือ ยอด 26,746 บาท” ผมเลยท้วงไปว่า “คุณรีบลบออกนะครับ เดี๋ยวไม่ใช่ผมติด NPL.ในเครดิตบูโรนะครับ” เขาบอกไม่มีแน่นอนครับ เพราะไม่ใช่ยอดค้างจ่าย เลยเชื่อใจมันไปอีกรอบ”

“เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 68 ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตของธนาคารแห้งหนึ่ง ส่งมายังคงมียอด 3 ยอด ที่ใช้ที่เวียดนามมา เรียกเก็บอีก ผมก็เลยโมโหโทรไปด่าเจ้าหน้าที่ธนาคาร ว่าทำไมยังมียอดมาเรียกเก็บอีก ธนาคารก็แจ้งเหมือนเดิมว่า ยอดมันโชว์ในระบบเฉยเฉย แต่ทางเราไม่ได้ตัดเงิน เราตัดแค่ตามยอดที่คุณใช้จ่ายจริงเท่านั้นนะครับ คือ ยอด 1,075.35 บาท เราก็เชื่อใจมันไปอีก”

“เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 68 ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตของธนาคารแห่งหนึ่ง ยังคงมียอด 3 ยอด ที่ใช้ที่เวียดนามมาอีก คราวนี้ผมฟิวส์ขาดหนักไปใหญ่ โทรไปด่าเจ้าหน้าที่ธนาคารอีกว่าทำไมยังมียอดมาอีก ผมจะต้องโทรอธิบายให้เจ้าหน้าที่กี่คนฟัง โทรทุกเดือน อธิบายทุกเดือน เจ้าหน้าที่ก็ยังคงแจ้งเหมือนเดิมว่า ยอดมันคงขึ้นในระบบเฉยเฉย แต่เราไม่ได้ตัดยอดคุณนะครับ ยังคงตัดยอดตามค่าใช้จ่ายจริงของคุณคือยอด 6,390.71 บาท ผมเลยบอกว่า คุณรีบจัดการนะครับ เดือนหน้าอย่าให้ผมเห็น 3 ยอดนี้อีกนะครับ เพราะมันเป็นการไม่ดี เดี๋ยวเกิดไปขึ้นในเครดิตบูโร จะกลายเป็นว่าผมไม่ได้ชำระเงิน เจ้าหน้าที่ธนาคารพูดเหมือนเดิมไม่ต้องเป็นห่วงครับ เราโฮลยอดไว้เรียบร้อยแล้วครับ”

ไฮไลท์มาอยู่ตรงนี้ครับ อยู่มาวันที่ 4 ก.พ. 68 ธนาคารก็แอบมาตัดเงิน ออกจากบัญชีออมทรัพย์ผม 24,813.56 และวันที่ 5 ก.พ. 68 ธนาคารก็แอบมาตัดยอด 75,142.56 ผมก็เลยโทรไปสอบถามธนาคารว่า ยอดเงินที่ตัดออกไป 2 ยอดนี้ คือค่าอะไร ธนาคารตอบกลับมาว่า ตัดค่าบัตรเครดิต 3 ยอด ผมก็เลยงงเลยครับ ว่าคุณตัดไปได้ยังไง มันเป็นยอดที่ผมไม่ได้ใช้ แล้วผมก็ติดต่อธนาคารมาตลอด 3 เดือน ธนาคารก็รับปากตลอดว่าจะไม่ตัดยอดนี้ แบบนี้เท่ากับยักยอกทรัพย์ผมไปโดยตรง แล้วสิ่งที่แปลกก็ คือ ทำไมไม่ตัดตามยอดบัตรเครดิต แล้วมาแอบตัดยอดเป็น 2 วัน และเป็นยอดที่ไม่ตรงกับใบแจ้งหนี้ด้วย”

“ผมก็เลยบอกไปว่า ถ้าคุณไม่รีบคืนเงินให้ผม ผมจะให้ทนายความประจำบริษัท แจ้งข้อหายักยอกทรัพย์นะครับ เจ้าหน้าที่ธนาคารเลยบอกว่าคุณใจเย็นๆครับ ขอเวลานำเรื่องเสนอผู้ใหญ่ก่อนครับ ขอเวลา 3 วัน วันนี้เวลา 12.00 น. ธนาคารโทรมายืนยันว่า ต้องตัดเงินออกจากบัญชีของคุณ เนื่องจากตรวจสอบแล้วคุณมีการใช้จ่ายจริง จะไม่มีการคืนเงินให้ครับ แบบนี้มันโกงกันชัดๆ วันนี้เลยได้ให้ทนายความประจำบริษัท ทำเรื่องฟ้องร้องธนาคารแห่งหนึ่ง ข้อหายักยอกทรัพย์ เราต้องต่อสู้เพื่อความถูกต้องยุติธรรมและความถูกต้องครับ”

“เงินเก้าหมื่นกว่าบาท สำหรับผมอาจจะไม่ใช่เยอะ แต่ถ้าเป็นคนอื่นที่หาเช้ากินค่ำหรือทำงาน ค้าขายแล้วมียอดเข้ามา แล้วอยู่ๆธนาคารมาแอบตัดเงินไป เขาจะเอาเงินที่ไหนไปใช้จ่าย เดือดร้อนลำบากขนาดไหน แล้วเค้าจะเอาปัญญาที่ไหนไปฟ้องร้อง กับธนาคารยักษ์ใหญ่แบบนี้ หารู้ไม่เลขาผมทำบัญชีละเอียดยิบ เกินเพื่อนๆทุกคนนะครับ ใบเรียกเก็บทุกใบต้องเก็บไว้ให้ดีดีนะครับ เวลามีเรื่องขึ้นมาจะได้มีเอกสารยืนยันครับ เรื่องนี้ขอให้ช่วยกันแชร์ไปเยอะๆครับ เราต้องร่วมกันต่อสู้กับพวกคนโกงครับ”

“สมัยนี้ต้องอาศัยสื่อโซลเชียลช่วยกันครับ ธนาคารนี้ผมใช้เดินบัญชีมา 30 กว่าปี ในแต่ละปีผมใช้ยอดบัตรเครดิตเยอะขนาดไหน ลองคิดคิดดูเอาครับ ปัจจุบันผมมียอดคะแนนสะสม 749,064 คะแนน จากยอดที่ผมใช้ลองคูณด้วย 25 คะแนนดูครับ ว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ยังจะโกงผมอีก ลูกค้าดีดีแบบนี้ ยังไม่รักษาไว้ ผมเคยใช้คะแนนของบัตรเครดิตใบนี้ แลกตั๋วเครื่องบินไปและกลับ “อังกฤษ 4 ที่นั่งมาแล้ว” รบกวนเพิ่มเพื่อนทุกๆท่านช่วยกันแชร์โพสต์นี้ออกใบกันเยอะๆด้วยครับ”

ขอบคุณข้อมูล : ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง