เมื่อวันที่ 5 ก.พ.68 ผู่สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nopadol Wongkittikraiwan โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่าย เป็นภาพครอบครัวเสือโคร่ง แห่งเขตรักษาพันธุ์สัตวป่าห้วยขาแข้ง ผืนป่ามรดกโลก จ.อุทัยธานี โดยเป็นภาพเสือโคร่ง 3 ตัว ปรากฏตัวบริเวณชายป่า ริมห้วยทับเสลา สภาพเสือโคร่งมีความอุดมสมบูรณ์ ขณะนอนเล่นอยู่ชายป่า คาดว่ามาลงกินน้ำลำห้วยทับเสลา

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายนพดล วงษ์กิตติไกรวัล เจ้าของภาพถ่ายดังกล่าว อายุ 76 ปี ทราบว่า ขณะเดินทางท่องเที่ยวถ่ายภาพสัตว์ป่าภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง พร้อมกับกลุ่มช่างภาพที่นำโดย นายมงคล พิทักษ์หมู่ เมื่อวันที่ 4 ก.พ.68 ที่ผ่านมา ระหว่างเฝ้ารอสัตว์ป่า บริเวณใกล้ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวฯ ได้พบกับครอบครัวเสือโคร่งเดินออกจากชายป่ามาทางฝั่งซ้ายเมื่อมองจากสะพานแขวนไป โดยสังเกตเห็นเป็นระยะห่างประมาณ 230 เมตร ในช่วงเวลา 14.00 น. ทำให้ตนและเพื่อนๆ ต่างพากันดีใจมาก ที่ได้พบสัตว์ชั้นบนสุดของห่วงโซ่อาหาร จึงได้รีบคว้ากล้องมาบันทึกภาพไว้ในความทรงจำ เพราะถือเป็นครั้งแรกที่ได้พบเสือโคร่ง ในผืนป่ามรดกโลกห้วยขาแข้ง โดยพบว่าเสือออกมาเดินอยู่ไม่นาน โดยสลับกันออกมา จากนั้นเสือที่ยังมีความระแวงไพร ก็ได้พากันเดินกลับเข้าป่าไป

อย่างไรก็ตามกลุ่มพวกตน ก็ได้เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ ในระยะห่างที่ปลอดภัย และไม่เป็นการรบกวนเสือโคร่ง โดยหวังว่าเสือโคร่ง น่าจะออกมาจากป่าอีก เพราะจุดที่พบใกล้กับห้วยทับเสลา คาดว่าเสือน่าจะออกมากินน้ำ อีกทั้งมีรายงานว่า ก่อนหน้าที่พวกตนจะพบนั้น เสือครอบครัวนี้ ที่คาดว่าน่าจะมีมากกว่า 3 ตัว ได้ล่าเหยื่อคาดว่าเป็น วัว หรือกระทิง ได้ 1 ตัว และได้ลากซากเข้าไปกินในป่าแล้ว จึงมีความเป็นไปได้ว่า เสือน่าจะออกมากินน้ำจากลำห้วย เพื่อดับกระหาย

โดยระหว่างที่เฝ่ารอเป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมง สุดท้ายเสือก็ออกมาจากชายป่าอีกครั้งในเวลาประมาณเกือบ 16.00 น. และ 17.00 น. คราวนี้พบเห็นเสือสลับกันเดินไปมา 3 ตัว เนื่องจากสังเกตลายของเสือที่ไม่เหมือนกัน โดยคาดว่า น่าจะเป็นตัวแม่ และตัวลูกที่เติบโตใกล้เคียงกับตัวแม่แล้วอีก 2 ตัว โดยเสือที่พบมีอิริยาบถที่สบายๆ แต่มีความระมัดระวังตัวอย่างสูง

ทั้งนี้การที่ได้พบเจอเสือโคร่งในป่าธรรมชาติแห่งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่ามรดกโลกห้วยขาแข้งเป็นอย่างมาก ถือเป็นสัญญาณที่ดีแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวที่พบเห็นสัตว์ป่า ใกห้รักษาระยะห่างที่ปลอดภัย ไม่ส่งเสียงดังรบกวน ไม่ควรใช้แฟลช เพื่อความปลอดภัยของทั้งนักท่องเที่ยวและสัตว์ป่า ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้พบเห็นสัตว์ป่าหายากเช่นนี้ในอนาคต.

ขอบคุณภาพและข้อมูล นายนพดล วงษ์กิตติไกรวัล และนายมงคล พิทักษ์หมู่