เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ด่านตรวจถาวรสามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ และด่านตรวจยานพาหนะชุมพร กก.2 บก.ปส.4 อ.ท่าแซะ จว.ชุมพร พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ลงพื้นที่ประชุมติดตามการปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงพื้นที่ภาคใต้ และตรวจเยี่ยม มอบสิ่งของบำรุงขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยมี พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร รรท.ผบก.ปส.2 บช.ปส. พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี รรท.ผบก.ปส.4 บช.ปส. พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี รรท.ผบก.ภ.จว.ชุมพร พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ฯ รรท.ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์, พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7, ผอ.ปปส.ภ.7 และ ภ.8 นายอำเภอสามร้อยยอด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวว่า รูปแบบการลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปยังแหล่งพักคอยพื้นที่ชั้นในมีความหลายหลาย เช่น อำพรางซุกซ่อนมากับผลิตผลทางการเกษตร การดัดแปลงยานพาหนะที่ใช้ในการบรรทุก ตลอดจนการใช้บริการขนส่งเอกชน โดยยาเสพติดที่เล็ดลอดจากการสกัดกั้นตามแนวชายแดนจะถูกลักลอบลำเลียงนำมาพักคอยในพื้นที่ภาคกลาง เพื่อรอการกระจายตามคำสั่งซื้อ หรือถูกลำเลียงไปยังพื้นที่ภาคใต้เพื่อส่งออกไปยังประเทศที่สาม สำหรับการลำเลียงทางบกผ่านพื้นที่ภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ตอนบน การเร่งรัดสืบสวนจับกุมทำลายแหล่งพักคอยยาเสพติดและการสกัดกั้นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ จึงเป็นกลไกสำคัญในการปราบปรามยาเสพติดในภาพรวมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รองรับมาตรการสกัดกั้นตามแนวชายแดนซึ่งจะช่วยให้การแก้ไข ป้องกัน ปราบปรามยาเสพติดประสบผลสำเร็จ

“ได้กำชับให้ทุกฝ่ายสืบสวน หาข่าว ติดตามสถานการณ์ยาเสพติด เส้นทางการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน พื้นที่พักคอยตามแนวชายแดน เส้นทางการลำเลียงยาเสพติด ตั้งแต่พื้นที่ต้นทาง พื้นที่พักคอยตอนในไปจนถึงพื้นที่ปลายทาง นำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อกำหนดมาตรการในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดแบบเหลื่อมเวลาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั้งเส้นทางหลัก เส้นทางรอง เส้นทางหลบเลี่ยงและเส้นทางโครงข่ายใยแมงมุม พร้อมกำหนดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมให้มีผลการปฏิบัติเป็นที่ประจักษ์ โดยหลัก SOP อย่างเคร่งครัด เน้นการทำงานแบบบูรณาการ ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน หน่วยงานความมั่นคง ฝ่ายปกครองและประชาชนในพื้นที่ พร้อมประสานความร่วมมือผู้ให้บริการระบบขนส่งโลจิสติกส์ ทั้งภาครัฐและเอกชน บันทึกข้อมูลผู้ส่งพัสดุทุกครั้ง พร้อมร่วมตรวจสอบการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางบริการขนส่งสินค้า หรือพัสดุภัณฑ์ทางไปรษณีย์ ตรวจสอบความพร้อมกำลังพลและเครื่องมือพิเศษประจำด่านตรวจฯ โดยห้ามเรียกรับผลประโยชน์โดยเด็ดขาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติ” รอง ผบ.ตร. กล่าว