จากกรณี คนร้ายชาย 4 คน ใช้จยย.เป็นยานพาหนะเข้าทำร้ายร่างกาย นางสาววิพาภรณ์ ต่วนเคลือ อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 และ นางสาวสุรีย์วรรณ เที่ยงบางหลวง อายุ 53 ปีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 คนสนิท ได้รับบาดเจ็บโดยเหตุการณ์เกิดบริเวณร้านค้า เลขที่ 9/5 หมู่ที่ 6 ปากซอยคลองหกตะวันตก 39 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูให้ความช่วยเหลือนำส่ง รพ.ปทุมเวช

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุพบว่า ภายในร้านยังมีร่องรอยเลือดหยดและสิ่งของกระจัดกระจาย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองหลังเข้ารับการรักษา แพทย์ให้กลับบ้านได้ ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.คลองห้า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างละเอียดเพื่อติดตามหาตัวคนร้ายแล้ว

ด้าน น.ส.วิพาภรณ์ ต่วนเคลือ ผู้ใหญ่บ้านเปิดเผยว่า เหตุเกิดที่เกิดขึ้นวานนี้ ตนกำลังจะถามว่าจะซื้ออะไรมั้ย แต่ยังไม่ทันได้ถาม 4 คนร้ายเป็นชายก็ตรงเข้ามาทำร้ายตนทันที ทั้งหมดใส่เสื้อแขนยาวแบบมีฮู๊ดทั้งหมด โดยทำร้ายจนตนเองร่วงจากเก้าอี้ตอนนั้นไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากป้องกันตนเอง อีกฝ่ายชกต่อยใบหน้าและร่างกายจนเลือดกำเดาไหล แพทย์ระบุว่า ดั้งจมูกร้าว และมีอาการระบมตามร่างกาย ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าไม่เคยไปมีปัญหากับใครมาก่อน เรื่องการเมืองตนก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง ก่อนหน้านี้เคยเป็นสมาชิกอบต.คลองหกมาก่อนก่อนจะมาลงเป็นผู้ใหญ่บ้านได้ 3 ปีแล้ว หลังเกิดเหตุนายอำเภอคลองหลวงทราบเรื่องแล้ว

ด้าน น.ส.สุรีย์วรรณ เที่ยงบางหลวง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุมีผู้ชาย 4 คน เดินเข้ามาในร้านโดยชายที่ใส่เสื้อสีดำเดินเข้ามาก่อน ทุกคนใส่เสื้อฮู๊ดทั้งหมด พอตรงเข้ามาก็ชกผู้ใหญ่บ้านจนร่วงลงไปกองกับพื้น จากนั้นก็ช่วยกันรุมกระทบ ตนเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปดึงผู้ก่อเหตุออกตอนนั้นชุลมุนมากโดยใช้เวลาประมาณ 10-15 วินาที จนสิ่งของล้มกระจัดกระจายก่อนที่ทั้งหมดจะวิ่งออกไปขึ้นรถจยย.มุ่งหน้าธัญบุรี โดยตนโดนชกเข้าที่ใบหน้าจนเบ้าตาขวาฟกช้ำและร่างกายได้รับบาดเจ็บ

ปกติเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นตนก็ไม่ได้ระวังมาก่อน ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้มีปัญหากับใครพฤติกรรมของคนร้ายก็เจาะจงมาที่ตัวผู้ใหญ่บ้าน เพราะในขณะเกิดเหตุก็อยู่ในร้านทั้งสองคนแต่คนร้ายเจาะจงไปที่ผู้ใหญ่บ้านเพียงคนเดียว สำหรับตนเองคิดว่าน่าจะมีคนจ้างมาทำร้ายผู้ใหญ่บ้านโดยตรง แต่จะเป็นใครตนเองไม่ทราบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายไมได้ประสงค์ต่อชีวิต แต่เป็นการสั่งสอนส่วนเรื่องอะไรตนเองไม่ทราบ ทั้งนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางร้านค้าผู้ใหญ่บ้านพบว่า ชำรุดทั้งหมดส่วนกล้องของ อบต.ก็เสียทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้.