เมื่อวันที่ 20 ม.ค. นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง ได้ไลฟ์ผ่านเพจทนายคลายทุกข์ กรณี “แสตมป์ อภิวัชร์” หลังโพสต์ขอโทษทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า วันนี้ทางคู่กรณีจะมาพบ เพื่อปรึกษาว่าจะมีมาตรการอย่างไรต่อไป จะจบหรือไม่จบ เขาจะมาพูดความจริงในฝั่งของเขา กรรมใดใครก่อ ก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งก็ต้องดูว่าจะแถลงข่าววันนี้เลยหรือไม่ แต่แนวโน้มเป็นอย่างนั้น “การขอโทษของแสตมป์ เป็นเหมือนการป่าวประกาศเพื่อให้เล็งเห็นผล และจะทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างไปถึงคู่กรณี ซึ่งสาเหตุก็มาจากการนอกใจภรรยา สุดท้ายยอมรับนอกใจเมีย คนที่นอกใจคือการไม่ซื่อสัตย์ต่อครอบครัว เป็นเหตุผลในการหย่า ในการฟ้องชู้ เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก”
ส่วนที่บอกว่าต้องการใช้เวทีในการสื่อสารไปถึงบุคคลกลุ่มหนึ่ง ทนายเดชา บอกชี้ว่า “เป็นการกระทำที่เห็นถึงเจตนา แล้วภรรยาของคุณเดือดร้อนเพราะใคร เพราะการกระทำของคุณ ไปยุ่งกับหญิงอื่น เพราะไม่ซื่อสัตย์หรือเปล่า และเคยบอกผู้หญิงอื่นว่ามีภรรยาอยู่แล้วหรือเปล่า หรือไปโกหกผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เป็นคำถามที่ผมอยากถามคุณแสตมป์” ซึ่งบางข้อไม่เหมือนการยอมรับ แต่กลับเป็นการภาคเสธ ทำให้ครอบครัวฝ่ายหญิงได้รับความเสียหาย และยังพาดพิงในทางลบ จะมาอ้างว่าคิดน้อยทำให้พูดแบบนั้นออกไปบนเวที อายุเท่าไรแล้ว ผมว่าวางแผนมาอย่างดีมากกว่า ไม่เชื่อว่าคิดน้อยเกินไป ซึ่งการเล่าเรื่องของคุณแล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อน จะคุณรับผิดชอบอย่างไร ต้องอย่าลืมว่าคุณเป็นบุคคลสาธารณะ
เมื่อถามว่าคุณ “จ” ซึ่งเป็นคู่กรณีของแสตมป์ จะดำเนินคดีกลับหรือไม่นั้น ทางทนายเดชา บอกว่า “ให้เขาพูดเองดีกว่า แต่การที่คุณแสตมป์ ออกมาแถลงการณ์ขอโทษต่างๆ มันก็ขอโทษเฉพาะเมีย มันยังมีข้อความต่างๆ ที่พาดพิง ทำให้คุณ ”จ“ เสียหาย ซึ่งเขาต้องตัดสินใจเองว่าจะดำเนินคดีกลับหรือไม่ เพราะคำพูดตั้งแต่วันที่ไปขึ้นเวที คำพูดมีการบิดเบือนข้อมูล ข้อมูลไม่ถูกต้องทั้งหมด แม้การพูดจะไม่ระบุชื่อว่าเป็นใคร แต่เป็นการเท้าความถึงคู่กรณีที่เป็นคดีอยู่ในศาล ซึ่งถ้าคนทั่วไปรู้และรับทราบว่าเป็นคนไหน ครอบครัวไหน มันก็ถือเป็นการทำลายชื่อเสียงครอบครัวเขา ทำให้ครอบครัวเขาเสียหาย ก็อาจจะดำเนินการตามกฎหมายได้”
ทนายเดชา ยังย้ำทิ้งท้ายอีกว่า “สิ่งสำคัญที่สุด คือ ม.112 ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ ว่าพ่อของคุณ “จ” หรือ “นายพล” ข่มขู่จะยัดคดีให้กับคุณแสตมป์จริงหรือไม่ ซึ่งทางครอบครัวเขา กำลังตัดสินใจอยู่เช่นกันว่าจะดำเนินคดีหรือไม่ หรือจะให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ก็ต้องขอดูอีกที เพราะมันมีมูลจริง”
อย่างไรก็ตาม ทนายเดชายังขอฝากถึงศิลปิน ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชนและสังคม ทำผิดแล้วต้องมีความเป็นลูกผู้ชาย ไม่ใช่โยนความผิด โยนขี้ให้ผู้หญิง ไม่ใช่ให้ผู้หญิงมาฟ้องร้องมือที่สามที่สี่ของเรา ทุกการกระทำมีผลตามมา ก็ฝากไว้นะ ลูกผู้ชายต้องมีความเป็นลูกผู้ชาย สังคมตัดสินหมดแล้ว เวรกรรมมีจริง..
ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก @ทนายคลายทุกข์