เป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง หลังนักร้องดัง “แสตมป์ อภิวัชร์” ออกมาเล่าเหตุการณ์สุดตกใจว่าตนเองและภรรยาสาว ถูกคุกคามจากคน 2 คน และได้หายหน้าไปจัดการเรื่องฟ้องร้องคนดังกล่าว ต่อมาแฟนหนุ่มของคู่กรณีได้ออกมายืนยันและโต้เรื่องราวดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง พร้อมทั้งอธิบายเรื่องราวผ่านโซเชียลของตน โดยละเอียด ต่อมาทางด้านเพจ “โตแล้วจะไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้” ได้อ้างตัวเป็นเพื่อนของ แสตมป์ และเป็นหนึ่งในพยานให้กับภรรยาของแสตมป์ ในคดีชู้สาว ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในกรณีดังกล่าว พร้อมข้อความแชตไลน์ ที่มีการพูดคุยกับแสตมป์

อีกทั้ง “แสตมป์ อภิวัชร์” ยังได้ออกมาโพสต์ขอโทษทุกคนที่ทำให้เดือดร้อนวงกว้าง เหตุจากเล่าไม่หมด ยกเว้นประเด็นปัญหาตั้งต้นการนอกใจภรรยา ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้
สรุปดราม่า ‘แสตมป์’ หลังหายจากวงการไป 2 ปี เหตุโดนคุกคาม คู่กรณีชี้แจงหนังคนละม้วน?
– ‘แสตมป์’ ขอโทษเล่าไม่หมด! ‘นอกใจภรรยาเอง’ ทำเดือดร้อนวงกว้าง

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 68 มีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก “โตแล้วจะไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้” ได้ออกมาโพสต์ข้อความโพสต์ 9 ข้อถึง “แสตมป์” มีดังต่อไปนี้
1. ขอโทษภรรยาแสตมป์ที่ผมต้องเล่าเรื่องทั้ง 2 โพสก่อนหน้า ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการทำร้ายจิตใจมากๆ (ซึ่งผมเคยขอโทษกับตัวคุณไปแล้วตอนที่เราเจอกันช่วงก่อนขึ้นศาล) แต่ผมต้องอธิบายเรื่องนี้อีกครั้งให้ประชาชนที่เข้าใจผิด จนเกิดความสับสนวุ่นวายกันไปหมด ได้เข้าใจข้อเท็จจริงอีกด้านครับ

2. ที่ผมต้องใช้คำว่า “เพื่อน” เพราะผมก็ต้องแสดงตนว่า สถานะผมเป็นใคร เพื่อให้ทุกคนทราบ ไม่ใช่อยู่ๆโพสต์เรื่องเลย ถ้าคนที่เข้าใจผมขอบคุณครับ ส่วนใครที่ไม่เข้าใจจะมองว่า เพื่อนแบบนี้เลว ผมก็ห้ามพวกคุณไม่ได้จริงๆครับ เหรียญมีสองด้านเสมอ

3. ตัวผมเองก็ไม่ได้ชอบเรื่องการนอกใจ คบซ้อน มีชู้ เพราะผมเองก็เคยโดน ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยเตือนแสตมป์ว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง ผมเตือนตั้งแต่วันแรกๆ ที่ผมรู้แล้วครับ แต่ข้อความนั้นมันไม่ใช่ประเด็นหลักของเรื่องนี้ ถ้าใครจะเข้าใจว่า ผมเป็นเพื่อนที่เลว ช่วยแสตมป์ให้นอกใจและเป็นคนกลางในการติดต่อกับชู้ ผมก็ห้ามไม่ได้ครับ แต่ในเมื่อผมได้รับข้อมูลว่าชีวิตแต่งงานแสตมป์ไม่มีความสุขแล้ว ผมก็ช่วยเท่าที่ช่วยแสตมป์ได้ ตอนท้ายพอรู้ว่า แสตมป์กลับไปดีกับภรรยา หลังจากถูกภรรยาจับได้ในเดือนสิงหาคม 2565 ผมดีใจมากเพราะสุดท้ายเขาก็กลับมาทำเรื่องที่ถูกต้อง ส่วนคู่กรณีหญิงเขาก็ไปมีแฟนใหม่แล้ว ต่างคนก็ใช้ชีวิตไป

4. ใครจะไปคิดว่า เรื่องมันวกกลับมาอีกในเดือนมิถุนายน 2566 (ที่เป็นโพสต์ที่ 2 ก่อนหน้า) จนถึงการฟ้องคดีในเดือนตุลาคม 2566 และล่าสุดที่แสตมป์พูดบนเวทีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

5. ที่ผมทำทั้งหมด ผมเลือกแล้วว่า ผมขอช่วยให้ศิลปินและผู้ไม่เกี่ยวข้องอีกมากมาย ที่ได้รับผลกระทบจากการทิ้งบอมบ์แบบไม่ได้แคร์ใครเลยของแสตมป์บนเวที (เพื่อที่ต้องการปกป้องแค่ตัวภรรยาตัวเอง) ได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ ไม่โดนทัวร์ไปลงแบบผิดๆ จะดีที่สุด ผมเห็นศิลปินมากมายที่ทราบเรื่องแต่พูดอะไรไม่ได้ งั้นผมก็มาเล่าแทนให้สังคมรับทราบข้อมูลอีกด้านจะดีที่สุด

6. ก่อนโพสต์ผมพยายามติดต่อแสตมป์และภรรยาแล้ว เมื่อเรื่องมันวุ่นวาย ลุกลาม เกิดความเข้าใจผิดในสังคม ทัวร์ไปลงศิลปินและผู้ไม่เกี่ยวข้อง แต่แสตมป์ไม่ออกมาให้ข้อมูลสังคมหรือแก้ไขอะไรเลย ผมถึงโพสเพื่อไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ และให้คนกลับมาที่ต้นเหตุของเรื่องจริงๆ เท่านั้น

7. ที่ผมต้องใช้เพจนี้ โพสต์แทนเฟสส่วนตัว เพราะผมก็ต้องเซฟตัวเองและคนรอบข้างเช่นกัน ผมไม่ได้ต้องการแสงหรือยอดอะไร (มันก็เหมือนเพจแฉต่างๆ ครับ) แต่ถ้าใครคิดว่าผมต้องการยอดเพจ ผมขอให้ทุกคนที่มากดติดตามเพจเพิ่มจากกรณีนี้ อันฟอลเพจได้เลยครับ เพราะขนาดผมใช้เพจ ผมยังโดนเข้าใจผิดขนาดนี้ ใครที่เข้าใจผมก็ขอบคุณมากๆ ครับ

8. ขอบคุณทุกคนที่ให้คำชี้แนะ และเข้าใจที่ผมทำ ขอบคุณจากใจครับ

9. ถึงแสตมป์ ผมยังรักคุณเหมือนเดิม และโคตรดีใจที่คุณกลับไปรักภรรยาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แบบที่แสตมป์เลือกนะ หวังว่าแสตมป์จะเข้าใจที่ผมต้องทำแบบนี้ ผมยังพร้อมช่วยเหลือคุณทุกอย่างเหมือนเดิม ถ้าคุณต้องการ แต่ถ้าคุณจะโกรธผม ผมก็เข้าใจและขอบโทษจริงๆ จบเรื่องแล้ว ถ้าคุณหายโกรธแล้ว เราไปยืนร้องเพลงที่เนินม่วงหรือเนินเขียวด้วยกันสักครั้งนะ

อย่างไรก็ตาม “ใช้ดาบซามูไรถางหญ้าให้คนได้เดินง่ายๆ อาจจะถางโดนขาตัวเองเป็นแผลบ้างก็ต้องทำใจ ใครยังอยากเดินลุยหญ้าต่อไป ก็ไม่ว่ากันครับ” เพจกล่าว

ขอบคุณข้อมูล : โตแล้วจะไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้