ลิเวอร์พูล จะงานง่ายหรือยาก! บทสรุป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจบรอบเพลย์ออฟ
February 20, 2025
สรุปทีมที่เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย 8 ทีมเข้ารอบแบบอัตโนมัติ (อันดับ 1-8รอบ ลีก เฟส) 1. […]
อ่านต่อ...
ครึ่งแรกเละ!! เสือเหลืองไล่ไม่ทันพ่ายรองบ๊วย 4-2
January 15, 2025
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: [email protected]
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ครึ่งแรกสภาพดูไม่จืดเสียประตูง่ายเกินโดน โฮลสไตน์ คีล นำไปก่อนถึง 3-0 ก่อนที่จะมาตื่นในครึ่งหลังได้ โจวานนี่ เรย์น่า กับ เจมี่ กิตเตนส์ ยิงคนละตุงแต่ก็ไล่ไม่ทัน เสือเหลือง ยังมาเสียประตูเพิ่มทดเจ็บนาทีสุดท้ายพ่ายรองบ๊วย 4-2 แถมเป็นการแพ้ 2 เกมติดต่อกัน
โฮลสไตน์ คีล
Starting Formation: 3-4-2-1
1.
ทิม่อน ไวเนอร์
26.
ดาิด เซ็ค
17.
ทิโม เบ็คเกอร์
3.
มาร์โก้ โคเมนด้า
8.
ฟินน์ โพราธ
85′
23.
ลาสเซอ โรเซนบูม
24.
มักนุส คนุดเซ่น
22.
นิโคไล เรมเบิร์ก
18.
ชูโตะ มาจิโนะ
76′ 
11.
อเล็กซานเดอร์ เบิร์นฮาร์ดสัน
68′
19.
ฟิล ฮาร์เรส
76′
ตัวสำรอง
21.
โธมัส ดาห์เน่
37.
อาร์มิน กิโกวิช
68′
20.
ยานน์-ฟีเต อาร์ป
76′
10.
ลูวิส โฮลท์บี้
76′ 
33.
โดมินิก ยาวอร์เช็ค
85′
14.
มักซ์ เกชวิลล์
6.
มาร์โก้ อิเวซิช
9.
เบเนดิกท์ พิคเลอร์
16.
อันดู เคลาติ
ผู้จัดการทีม
มาร์เซล รัปป์
ฟุตบอลบุนเดสลีก้า
สนาม โฮลสไตน์ สตาดิโอน
วันที่ 14 มกราคม 2568
กรรมการ มาร์ติน ปีเตอร์เซ่น
โฮลสไตน์ คีล
4
2
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
1-0 มาจิโนะ 27′
2-0 ฮาร์เรส 32′
3-0 เบิร์นฮาร์ดสัน 45+4′
4-2 อาร์ป 90+8′
3-1 เรย์น่า 71′
3-2 กิตเตนส์ 77′
คีล ยึดนักเตะชุดเดิมแต่เปลี่ยนหนึ่งตำแหน่งด้วยการดร็อป กิโกวิช แล้วให้ คนุดเซ่น ลงเป็นตัวจริงแทน
ขณะที่ ดอร์ทมุนด์ แนวรับได้นักเตะกลับมาแล้วไม่ว่าจะเป็น ชล๊อตเตอร์เบ็ค, ชาน และ เบนเซไบนี่ แต่ริมเส้นไร้ชื่อ อเดเยมี่ ทำให้ ดูรานวิลล์ ลงแทน
5′
ช่วงแรกผลัดกันได้โอกาสฝั่งละหน
มาถึงก็ผลัดกันมีโอกาสทักทายไปแล้ว ดอร์ทมุนด์ ได้ลองก่อนจากที่ กิตเตนส์ ได้สับไกหน้าเขตโทษบอลพุ่งหลุดเสาแรกไปหน่อย แล้วจากนั้น คีล บุกกลับ โพราธ เข้าเขตโทษไปสับไกติดเซฟ
11′
เสือเหลืองมาใหม่ กีราสซี่ ยิงไกลโดนปัด
โอกาสของ ดอร์ทมนุด์ มาอีกรอบเมื่อ บรันท์ ฝากบอลไปที่ กีราสซี่ หน้าเขตโทษจับแล้วตัดสินใจสับไกเองเลยทำให้ ไวเนอร์ ต้องออกแรงเซฟ
27′
คีลขอก่อน!!แย่งบอลได้บุกลับ มาจิโนะ ยิงนำ
แต่แล้วหลัง ดอร์ทมุนด์ ทำเกมบุกไปหาโอกาสจบไม่ได้พวกเขาก็ดันมาพลาดเสียประตู จากที่กลางสนาม บรันท์ โดนแย่งบอลไปได้ คีล เลยโต้กลับมา 3 คน เบิร์นฮาร์ดสัน จ่ายให้ มาจิโนะ หน้าเขตโทษยิงเน้นๆตุงตาข่าย คีล นำ 1-0
31′
เสือเหลืองช็อก!! ฮาเรส โหม่งไม่เหลือ คีลนำห่าง
เท่านั้นไม่พอ คีล บุกมาใหม่แล้วได้ประตูนำห่างออกไปอีก หลังจากฝากไปที่ โรเซนบูม ริมเส้นขวาแล้วเปิดเข้าไปในเขตโทษ ฮาร์เรส สอดกองหลังมาโหม่งบอลกระดอนเข้าไปได้ ดอร์ทมุนด์ ช็อกเลย คีล นำ 2-0
41′
หวิดสาม!! คีลมาอีก โรเซนบูม ยิงติดเซฟ โพราธ ซ้ำเฉี่ยวเสา
ท้ายครึ่งแรกเกือบมีประตูเพิ่มห้ คีล อีกต่างหาจากการขึ้นทางริมเส้นขวา โรเซนบูม ทำชิ่งขึ้นมาแล้วเลี้ยงตัดเข้าไปในเขตโทษโยกหาช่องยิงเองติดเซฟ บอลเด้งไปหา โพราธ ซ้ายมือในเขตโทษยิงซ้ำบอลพุ่งหลุดโคนเสาไกลหน่อยเดียว
45+2′
เสือเหลืองพยายามบุกยังไม่ใกล้เคียง กิตเตนส์ ยิงออกหลัง
ดอร์ทมุนด์ พยายามบุกเพื่อหาประตูตีไข่แตกแต่ก็ตันๆ มาได้จังหวะที่ กิตเตนส์ ทางซ้ายเลี้ยงตัดเข้าในมาพยายามล็อกแล้วยิงเองแต่ก็พุ่งหลุดออกหลัง
45+4′
คีลเอาอีก!! สวนกลับ เบิร์นฮาร์ดสัน ยิงตุงสาม
แต่แล้วพอ คีล ได้บุกทิ้งทวนครึ่งแรกก็เอาประตูเพิ่มไปอีกจาก เรมเบิร์ก ลุยมาริมเส้นซ้ายแล้วจ่ายเข้าเขตโทษให้ ฮาร์เรส ในเขตโทษไม่ยิงเองตบเข้ากลาง เบิร์นฮาร์ดสัน โล่งๆยิงไม่เหลือนำ 3-0
HALF TIME
46′
เกมต้องหยุดชั่วคราว แฟนบอลจุดพลุควันโขมง
ครึ่งหลังเริ่มเกมมาไม่กี่นาทีแฟนบอลจุดพลุควันในสนามโขมงไปหมดมองไม่เห็นอะไร กรรมการเลยต้องสั่งเบรคเกมชั่วคราวจนกว่าควันจะจางลง
54′
คีลยังหาโอกาสได้เรื่อยๆ
กลับมาแข่งต่อ ดอร์ทมุนด์ หาทางเจาะลำบากอยู่ส่วน คีล บุกมาทีก็หาจังหวะจบได้เรื่อยๆมีทั้งลูกโหม่งของ เซ็ค โดนเซฟได้และ โพราธ ยิงไกลแต่ก็ออกหลัง
58′
เสือเหลืองเปลี่ยนตัวเพิ่ม คูโต้,เรย์น่า ลงมาช่วย
ดอร์ทมุนด์ ต้องเปลี่ยนตัวเพิ่มอีกเพราะเกมไม่กระเตื้องเลย ถอดเอา ซาบิทเซอร์ กับ ดูรานวิลล์ ออกแล้วให้ เรย์น่า กับ คูโต้ ลงมาแทน
59′
กีราสซี่ ยิงมุมแคบเสียหลักออกหลัง
หลังจากนั้น ดอร์ทมุนด์ ได้โอกาสจบที่ บรันท์ จ่ายเข้าเขตโทษทางซ้ายให้ กีราสซี่ โฉบมาเอาบอลได้ล็อกไว้ก่อนแล้วแตะไปมุมแคบแต่จังหวะยิงเสียหลักล้มบอลเลยออกหลัง พยายามฟ้องว่าโดนผลักแต่เปาก็นิ่ง
70′
เสือเหลืองยังบุกต่อ กีราสซี่ โหม่งข้ามคาน
ดอร์ทมุนด์ ยังพยายามบุกต่อไปแต่ก็หาประตูไม่เจอ มีจังหวะ ชาน ยิงหน้าเขตโทษติดบล็อกแต่ คูโต้ ตามไปเก็บทางขวาเปิดโด่งเข้าไปแล้ว กีราสซี่ พยายามเบียดโหม่งข้ามคาน
71′
เสือเหลืองได้สักที! เรย์น่า ยิงหน้าเขตโทษตีไข่แตก
แล้วพอ เสือเหลือง บุกมาใหม่ก็เอาประตูตีไข่แตกจนได้ จากที่ อันตอน ฝากไปให้ เรย์น่า พาบอลต่อมาหน้าเขตโทษแล้วขอยิงไกลเองบอลแหวกผ่านเข้าประตูไปไล่มาเป็น 3-1
77′
คัมแบ็คอีกแค่เอื้อม! กิตเตนส์ ยิงตุงตาข่ายไล่จี้
จากนั้น ดอร์ทมุนด์ บุกต่อแล้วก็เอาคืนมาได้อีกลูกจากที่ กิตเตนส์ เปิดไปทีแรกโดนโหม่งดักเอาไว้จังหวะสองยังช่วยกันเก็บมาได้เข้าทาง กิตเตนส์ ทางซ้ายในเขตโทษแตะเข้าขวาก่อนยิงแฉลบนิดบอลลอยเข้าประตู ดอร์ทมุนด์ ไล่เหลือ 3-2
83′
คีลขอลุ้นฟรีคิกเปิดไปโหม่งเบาเกิน
ท้ายเกม คีล บุกกลับมาได้ฟรีคิกทางซ้ายเลือกเปิดเข้าไปในเขตโทษแล้ว เซ็ค ได้โหม่งแต่ยังเบาไปกระดอนเข้ามือของ โคเบิล
86′
คีลงานงอก! โฮลท์บี้ ขาคู่โดนแดง ทีมเหลือ 10 คน
คีล เหนื่อยเพิ่มเลยเพราะต้องมาเหลือนักเตะ 10 คนในช่วงก่อนจะหมดเวลาเพราะ โฮลท์บี้ จะไปกวดไล่บอลคืนมาแต่นึกอะไรไม่รู้กระโดดขาคู่กวาดใส่ เมช่า จากด้านหลังแบบนี้ก็ใบแดงทันที
88′
เสือเหลืองยังพอมีเวลา ชล๊อตเตอร์เบ็ค โหม่งโดนเซฟ
ดอร์ทมุนด์ พยายามเดินหน้าบุกเพื่อประตูตีเสมอได้แล้วโอกาสจาก เรย์น่า ครอสเข้าไปในเขตโทษ ชล๊อตเตอร์เบ็ค พยายามขึ้นโหม่งแต่ยังส่งบอลไปโดนเซฟ
90+8′
โดนฝัง! โคเบิล ไปเล่นเตะมุมเจอสวนกลับเสียประตูเพิ่ม
ทดเจ็บ โคเบิล พยายามขึ้นไปเล่นลูกเตะมุมเพื่อเอาประตูตีเสมอแต่สุดท้ายโดนสวนกลับตอกฝาโลงไป หลังเตะมุมเปิดเข้ามา ดอร์ทมุนด์ โหม่งกันไม่ได้ คีล โต้กลับ อาร์ป ควบพาบอลมาเองก่อนจะยิงจากครึ่งสนามเข้าประตูโล่งๆกลายเป็น 4-2
จบเกม ดอร์ทมุนด์ ไล่กันไม่ทันพ่ายต่อ คีล 4-2 ทำให้พวกเขาแพ้ 2 เกมติดตั้งแต่เริ่มปีนี้และยังอยู่เพียงแค่อันดับ 8 ในตารางอาจจะโดนเบียดหล่นมาอีก
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
Starting Formation: -2-3-1
1.
เกรกอร์ โคเบิล
4.
นิโก้ ชล๊อตเตอร์เบ็ค
23.
เอ็มเร่ ชาน
5.
รามี่ เบนเซไบนี่
45′
26.
ยูเลี่ยน รีเยอร์สัน
45′
8.
เฟลิกซ์ เมช่า
20.
มาร์เซล ซาบิทเซอร์
59′
10.
ยูเลี่ยน บรันท์
3.
เจมี่ กิตเตนส์
16.
ยูเลี่ยน ดูรานวิลล์
59′ 
9.
เซห์รู กีราสซี่
ตัวสำรอง
33.
อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์
38.
เคลล์-อาริค แวทเย่น
2.
ยาน คูโต้
59′
14.
มักซิมิเลียน ไบเออร์
45′
3.
วัลเดอมาร์ อันตอน
45′
37.
โคล แคมป์เบลล์
49.
ยานนิค ลูร์ส
7.
โจวานนี่ เรย์น่า
59′
42.
อัลมูเกร่า คาบาร์
ผู้จัดการทีม
นูริ ซาฮิน
