เมื่อวันที่ 14 ม.ค. นางคำพร อ่อนเกตุ อายุ 40 ปี ชาว อ.แม่สอด จ.ตาก ได้แจ้งความต่อ ร.ต.อ.ดิษฐา บัวสำรี พนักสอบสวน สภ.แม่สอด ว่า ด.ญ.ธรรมพร อ่อนเกตุ อายุ 10 ขวบ ได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. 68 จนถึงขณะนี้ยังไม่พบ ทั้งนี้หลังจากที่ ด.ญ.ธรรมพร ได้ไปกับ น.ส.แหวน หญิงสาวในหมู่บ้านเดียวกันโดยการชักชวน เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 68 จากนั้นไม่กลับมาเลย โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง และชาวบ้าน ช่วยกันหาตัว ด.ญ.ธรรมพร จนพบจักรยาน 1 คัน และผ้าพันคอ ตกอยู่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา แต่ไม่พบตัวแต่อย่างใด

นางคำพร กล่าวว่า ขอให้ตำรวจติดตามหาลูกสาวให้ด้วย และก่อนเกิดเหตุ น.ส.แหวน ได้ขอเงินตนเอง 200 บาท แต่ตนเองไม่ให้ เพราะเคยขอบ่อย และวันเกิดเหตุได้ชักชวนลูกสาวของตน โดยอ้างว่าจะพาไปเติมเงินโทรศัพท์ และจะซื้อขนมให้ จากนั้นก็หายตัวไปทั้งคู่

ขณะที่ นายสมนึก สีใจคำ อายุ 53 ปี คนที่นางคำพร จ้างให้ดูแลเลี้ยงลูกสาววัย 10 ขวบ กล่าวว่า ตนเองไม่อยู่บ้าน แต่ภรรยาเล่าให้ฟังว่า น.ส.แหวน ชักชวนเด็กไปเติมเงินโทรศัพท์ จากนั้นก็หายไป พอไปตามก็พบผ้าพันคอกับจักรยาน มีคนเล่าว่า น.ส.แหวน จะพาเด็กไปงมหอยในแม่น้ำเมยและก็หายไป ทั้งที่หอยในแม่น้ำเมยไม่มี

อย่างไรก็ตาม ทางญาติเชื่อว่า ทั้งคู่น่าจะข้ามไปฝั่งเมียนมา ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของทหารกะเหรี่ยง หรือกองกำลังพิทักษ์ประชาชนอยู่ โดยเป็นพื้นที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์และบ่อนกาสิโน จึงขอให้ตำรวจช่วยติดตามตัวเด็กคืนมาด้วย.