จากกรณีโลกออนไลน์แชร์เรื่องราวของ สุนัขชื่อ “น้องทองดี” ถูกประกาศแจ้งหาย หากใครเจอนำมาส่งคืนได้ จะให้เงินรางวัล 50,000 บาท โดยเหตุเกิดช่วงคืนเคานท์ดาวน์ ปีใหม่ 2568 ที่มีการจุดพลุเสียงดังจนสุนัขวิ่งเตลิด เหตุเกิดพื้นที่ซอยรังสิตนครนายก 20 จ.ปทุมธานี ภายหลังมีคนแจ้งว่าพบสุนัขตัวนี้แล้ว และเจ้าของมารับส่งคืนไปแล้ว แต่กลับเกิดกระแสดราม่าขึ้น เมื่อเจ้าของขอเวลาตรวจสอบว่าคนแจ้งเบาะแสสุนัขคนแรกคือใคร จึงยังไม่ได้มอบเงินดังกล่าว และจะให้ทนายความดำเนินการฟ้องร้องคนที่ทำให้ชื่อเสียงเสียหาย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.วิสา นิยะตี อายุ 35 ปี ผู้ที่เอาสุนัขไปมอบให้กับเจ้าของว่า เนื่องจากตนเห็นประกาศตามหาในเพจสุนัขหายชื่อ “ทองดี” มีการตั้งเงินรางวัล 20,000 บาท โพสต์วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ต่อมาวันที่ 2 ม.ค. 2568 ได้โพสต์เพิ่มรางวัลขึ้นมาอีกเป็น 50,000 บาท กระทั่งวันเดียวกในช่วงเช้า ตนพาสุนัขที่เลี้ยงไว้ไปเดินเล่นในซอยรังสิตนครนายก 14 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และได้พบ “ทองดี” สุนัขที่หายไป ภายหลังแจ้งทางเจ้าของก็ได้รับการไว้วานว่า ช่วยดูแล “ทองดี” ให้หน่อย ตอนนี้ยังมารับกลับไปไม่ได้เพราะอยู่ต่างจังหวัด ตนก็นั่งเฝ้าดูแลให้ตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็นจนเจ้าของมารับกลับไป โดยไม่มีการให้เงินรางวัลแต่อย่างใด จึงเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับ ตำรวจประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อยืนยันเป็นหลักฐาน วันเวลาดังกล่าว และนำคืนให้เจ้าของเป็นที่เรียบร้อย แต่ไม่ได้รับเงินตามสัญญาที่ให้ไว้แต่อย่างใด
“…สอบถามไปทางแชทแล้ว ก็ได้รับคำตอบว่า เดี๋ยวรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดกล้องดู จุดที่เจอหมา ใครเจอคนแรก ซึ่งทางพนักงานร้านหมูกะเจอก่อน แต่ก็ไม่ได้สนใจว่าหมาที่ประกาศตามหาใครพบจะให้รางวัล ต่อมาหมาได้หลุดไปหลบอยู่ในป่า จนมาอยู่หน้าบ้านเราพอดี เราก็ดูแลให้ จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อว่า แบบไหนยังไง ใจจริงก็ไม่อยากจะให้ไปโพสต์ตัวเลขแบบนี้ ใครเห็นก็อยากได้ จุดประสงค์ที่มาสถานีตำรวจวันนี้ก็คือ ไม่อยากให้ทำแบบนี้โดยการตั้งตัวเลขสูง รางวัลตามหาหมา ซึ่งตอนนี้ก็เขาบอกว่ารอตรวจสอบ เขาจะมีทนายของเขา บอกให้รอก่อน
จะมีโพสต์ของเขา โต้ตอบกลับว่า การให้เขาจะให้ด้วยความเต็มใจเอง ไม่ต้องรอให้มาร้องขอโดยที่เขาไม่เต็มใจ แสดงความโลภ โพสต์เหมือนกับว่าเสียดสี แล้วก็มีอีกข้อความนึง มีคนเข้าไปทักทาง comment ว่าได้เอาเงินให้น้องจริงไหม โพสต์ว่า ไม่ได้เจอหมาเป็นคนแรก อย่าสาระแน กูเลือกให้คนที่เจอคนแรก กูจะตามกล้องวงจรปิด เงินกูไม่ใช่เงินมึง…” น.ส.วิสา กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังเจ้าของสุนัข โดยยังไม่ตอบคำถามใดๆต่อผู้สื่อข่าว และไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ใดๆ ให้ข้อมูลเพียงสั้นๆว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นหน้าที่ของทนายความที่จะต้องชี้แจงได้หารือกับทนายเป็นที่เรียบร้อย
ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ น.ส.เมย์ อายุ 38 ปี พนักงานร้านหมูกะที่เจอสุนัขคนแรก เปิดเผยว่า สุนัขได้กระโดดเข้ามาที่หลังร้าน วิ่งเข้ามาหลบอยู่แท็งค์น้ำ แล้วก็หลบอยู่บริเวณตรงนั้นไม่ยอมออก ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นสุนัขของใคร พอมาอีกวันนึงเจ้าของร้านแจ้งมาว่าช่วยดูให้หน่อยเดี๋ยวเจ้าของจะมาเอา อยู่มา 2 คืน ส่วนคืนที่ 3 ปรากฏว่า สุนัขหนีออกไปเอง แต่เราก็ไม่สนใจนึกว่ามีเจ้าของมารับไปแล้ว มารู้อีกทีก็ตอนสุนัขไปอยู่ที่เจ้าของแล้ว.