การมีเพศสัมพันธ์เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มีส่วนช่วยให้ความสัมพันธ์นั้นดีขึ้นได้ การถึงจุดสุดยอดขณะมีเพศสัมพันธ์มีประโยชน์ทั้งด้านร่างกายและอารมณ์ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ ช่วยให้หลับสบาย และช่วยลดความเครียด
แต่หญิงสาวเคยรู้บ้างไหมว่า หลังมีเพศสัมพันธ์ที่บ่อยครั้ง เร่าร้อน อาจทำให้รู้สึกดี แต่อาจส่งผลข้างเคียงหลายอย่างที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่
เราลองมาดูกันว่า หลังมีเพศสัมพันธ์แล้วเจอ 9 อาการเหล่านี้ ไม่ควรนิ่งเฉย รีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพื่อวินิจฉัยสาเหตุ
- เลือดออกเล็กน้อยหลังมีเพศสัมพันธ์
อาการมีเลือดออกเล็กน้อยหลังมีเพศสัมพันธ์ เป็นเรื่องที่พบได้บ่อย แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน สาเหตุหนึ่งอาจเกิดจากช่องคลอดแห้ง ทำให้เกิดรอยฉีกขาดเล็กน้อยระหว่างมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ ติ่งเนื้อที่ปากมดลูก ซึ่งเป็นการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อที่ปากมดลูก ก็อาจทำให้เกิดเลือดออกได้เมื่อถูกกระตุ้นระหว่างมีเพศสัมพันธ์
- รู้สึกแสบร้อนหลังมีเพศสัมพันธ์
อาการแสบร้อนหลังมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่พบได้บ่อย แต่ไม่ใช่เรื่องปกติ อาการนี้อาจรุนแรงน้อยหรือรุนแรงมากก็ได้ แม้ว่าการรู้สึกแสบร้อนหลังมีเพศสัมพันธ์เป็นครั้งคราวอาจไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล แต่หากเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ เช่น อาการแพ้ การเสียดสีมากเกินไประหว่างมีเพศสัมพันธ์ หรืออาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ การใช้เจลหล่อลื่นและการป้องกันอาจช่วยบรรเทาปัญหานี้ได้ หากอาการยังคงอยู่หรือรุนแรงขึ้น ควรปรึกษาแพทย์
- อาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อ
อาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อหรือรู้สึกไม่สบายตัวหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะบริเวณอุ้งเชิงกราน เป็นเรื่องที่พบได้บ่อย อาการเหล่านี้มักเกิดจากกิจกรรมทางกายที่รุนแรงในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ หากอาการปวดเกร็งรุนแรงและเป็นอยู่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือเนื้องอกมดลูก ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบ
- อาการปวดหัว
กิจกรรมทางเพศบางครั้งอาจทำให้เกิดอาการปวดหัว ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า “ปวดหัวจากการมีเพศสัมพันธ์” อาการปวดหัวเหล่านี้อาจมีตั้งแต่ระดับปวดน้อยไปจนถึงปวดรุนแรง และเกิดขึ้นได้จากการหลั่งสารเคมีบางชนิดและความตึงเครียดของกล้ามเนื้อในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ หากคุณมีอาการปวดหัวหลังมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง ควรปรึกษาแพทย์
- อาการคันช่องคลอด
อาการคันช่องคลอดเป็นอาการที่สร้างความรำคาญและบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพในช่องคลอดได้หลายอย่าง อาจเป็นอาการของการติดเชื้อรา หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เริม นอกจากนี้ อาการคันช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์อาจเกิดจากอาการแพ้เจลหล่อลื่นหรือถุงยางอนามัยได้เช่นกัน หากอาการคันยังคงอยู่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
- อาการปวดช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์
อาการปวดช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม อาการนี้สามารถเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การหล่อลื่นไม่เพียงพอ ความไวต่อการสัมผัส หรือปัญหาทางนรีเวชอื่นๆ อาการปวดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์อาจเกี่ยวข้องกับภาวะโรคอื่นๆ เช่น โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือภาวะช่องคลอดหดเกร็ง หากคุณมีอาการปวดช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและหาสาเหตุที่แท้จริง
7 .อารมณ์แปรปรวนหลังมีเพศสัมพันธ์
อาการอารมณ์แปรปรวนหลังมีเพศสัมพันธ์อาจเกิดจากปัจจัยทางจิตใจ อาการนี้อาจเกิดจากภาวะซึมเศร้าหลังการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นภาวะที่ผู้หญิงมีอารมณ์แปรปรวนและรู้สึกเศร้าหลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยยินยอม
- ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (UTI) หลังจากมีเพศสัมพันธ์
กิจกรรมทางเพศสามารถนำแบคทีเรียเข้าสู่ท่อปัสสาวะและทางเดินปัสสาวะได้ ทำให้เกิดการติดเชื้อ อาการทั่วไปของ UTI ได้แก่ ปวดปัสสาวะบ่อย แสบขณะปัสสาวะ และปวดท้องน้อย หากปล่อยปละละเลยอาการเหล่านี้ อาจนำไปสู่การติดเชื้อที่รุนแรงมากขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อไตได้
- การเปลี่ยนแปลงกลิ่นในช่องคลอด
การเปลี่ยนแปลงกลิ่นในช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องน่ากังวลเสมอไป เนื่องจากช่องคลอดมีกลิ่นเฉพาะตัวตามธรรมชาติ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดรอบเดือน อย่างไรก็ตาม หากมีกลิ่นเหม็นรุนแรง หรือมีกลิ่นคาวปลา อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากคุณสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นอย่างฉับพลัน ควรปรึกษาแพทย์
คงปฏิเสธไม่ได้เรื่องเซ็กซ์ได้สร้างความสุขให้กับคู่รัก คนรัก แต่หากหญิงสาวคนไหนมีอาการที่กล่าวมา ควรรีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันกระทบต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว.