มาร์เก็ตเพลส

ผลบอลพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล บุกถล่ม สเปอร์ส ซาล่าห์-ดิอาซ ควงเบิ้ล : PPTVHD36
December 23, 2024

แอนจ์ ปอสเตโคกลู กุนซือสเปอร์ส เกมล่าสุดเมื่อกลางสัปดาห์เปิดบ้านชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปหวุดหวิด 4-3 ในเกมรอบ 8 ทีมคาราบาว คัพ โดยเกมนี้ไม่มีการเปลี่ยนทีมใช้ผู้เล่นชุดเดิมทั้งหมด
 
อาร์เน่อ สล็อต เฮดโค้ชลิเวอร์พูล เกมนี้กลับมาใช้ผู้เล่นตัวหลักหลังจากพักไว้ในเกมคาราบาว คัพ ที่ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1  แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กลับมาจากโทษแบน เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค,  ไรอัน กราเฟนแบร์ก,โดมินิค โซบอสซ์ไล, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ และ หลุยส์ ดิอาซ คืนทีมทั้งหมด

ผลบอลพรีเมียร์ลีก บอร์นมัธ ฟอร์มโหดบุกถล่ม แมนยู 3-0

ลิเวอร์พูล เล็งคว้า โจนาธาน เดวิด หลังหมดสัญญากับลีลล์ช่วงซัมเมอร์

พรีเมียร์ลีก AFP/Glyn KIRK
โดมินิก โซลันกี้ พยายามเอาชนะ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์

เริ่มเกมมาถึงนาทีที่ 10 ลิเวอร์พูล มีโอกาสทองในการลุ้นขึ้นนำ  เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ แหย่เท้ายิงแต่ไปติดเซฟ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ซึ่งแม้ลูกนี้กองหน้าทีมชาติอิยิปต์ จะยิงเข้าไปแต่ภาพช้าฟ้องว่า ซาล่าห์ ล้ำหน้า

นาทีที่ 17 ทีมเยือน ที่บุกต่อเนื่อง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้ยิงอีกครั้ง แต่ติดเซฟถึง 2 ครั้ง เจด สเปนซ์   ที่บล็อคได้ถึง 2 ครั้ง

นาทีต่อมา ซาล่าห์ เอาชนะแนวรับสเปอร์ส แต่ยิงไปชนคาน ลิเวอร์พูล ยังไม่ได้ประตูนำ

นาทีที่ 23 ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดจากทางขวาไปให้ หลุยส์ ดิอาซ ทะยานโหม่งเสียบเสาแรกเข้าไป และถือเป็นประตูแรกในลีก รอบ 3 เดือนของ ดิอาซ 

เกมผ่านครึ่งชั่วโมง สเปอร์ส เจ้าถิ่นแทบจะไม่มีโอกาสในจังหวะเข้าทำเลย โดยเฉพาะแดนกลางที่ยังต่อบอลไม่ได้ 

นาทีที่ 36 ลิเวอร์พูล ขยับนำเป็น 2-0 จากลูกโหม่งของ  อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ที่ได้บอลในจังหวะที่ โดมินิค โซบอสซ์ไล แย่งขึ้นโหม่งกับ อาร์ชี เกรย์ และ ราดู ดรากูซิน ก่อนโหม่งผ่านมือ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ โดยประตูนี้ถือเป็นประตูแรกในลีกของดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินา ในฤดูกาลนี้

นาทีที่ 41 แฟนในท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส สเตเดี้ยม มามีเสียงเฮบ้าง เมื่อ สเปอร์ส ไล่มาเป็น 1-2 จาก เจมส์ แมดดิสัน ที่ได้บอลมาจากจังหวะที่  เดยัน คูลูเซฟสกี้ แย่งบอลกับ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์  ก่อนยิงด้วยขวาเข้าไป ชนิดที่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ได้แต่ใช้สายตาป้องกัน 

นาทีที่ 45+1 ลิเวอร์พูล มานำ 3-1 จากจังหวะที่ สเปอร์ส ดันสูง โดมินิค โซบอสซ์ไล โหม่งต่อให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ จ่ายคืนให้ โซบอสซ์ไล ยิงลอดขา เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ เข้าไป และก็จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ 

พรีเมียร์ลีก AFP/Glyn KIRK
โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ เกมนี้ยิง 2 จ่าย 2

กลับมาครึ่งหลัง นาทีที่ 54  ลิเวอร์พูล มานำห่าง 4-1 เมื่ออาร์ชี เกรย์ สกัดไม่ขาดมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ยิงเผาขนเข้าไปและเป็น 8 ประตูใน 8 เกมหลังที่ลงเล่นให้ “หงส์แดง”นอกจากนี้ยังเป็นประตูที่ 14 ในลีกฤดูกาลนี้นำเป็นดาวซัลโวเดี่ยว 

นาทีที่ 61  โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ มาทำประตูที่ 2 ให้ตัวเองในเกมนี้ ให้ ลิเวอร์พูล นำ 5-1 หลังรับบอลง่ายๆจาก โดมินิค โซบอสซ์ไล  และยิงด้วยขวาไม่เหลือ พร้อมกับเป็นประตูที่ 15 ในลีกฤดูกาลนี้ 

นาทีที่ 63 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ยังทำประตูที่ 6 ให้ ลิเวอร์พูล ไม่ได้เมื่อถูก  เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ปัดเอาไว้ได้

นาทีที่ 72 สเปอร์ส ยังไม่ยอมแพ้ ไล่มาเป็น 2-5  โดมินิก โซลันกี้  ยกบอลไปให้ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ยิงผ่านมือ อลีสซง เบ็คเกอร์ เข้าไป และถือเป็นการยิง 5 นัดติดต่อกันในทุกรายการ

อีก 4 นาทีต่อมา ทีมเยือนมีโอกาสได้ประตูที่ 6 แต่ หลุยส์ ดิอาซ ชิพหวังให้ตกใต้คาน แต่ลูกน้ำหนักแรงออกหลังไปนิดเดียว

นาทีที่ 80 เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ต้องมาปัดทิ้งที่เสาแรก จากจังหวะบอลแฉลบ อาร์ชี เกรย์ เปลี่ยนทางเกือบเป็นประตู

นาทีที่ 83 เบรนแนน จอห์นสัน ตัวสำรองมาโหม่งให้ โดมินิก โซลันกี้ ยิงด้วยซ้ายใส่ทีมเก่าเข้าไปให้ สเปอร์ส ไล่มาเป็น 3-5

นาทีที่ 85 โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ จ่ายให้ หลุยส์ ดิอาซ ยิงทะแยงมุมให้ ลิเวอร์พูล นำ 6-3 

จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาชนะ 6-3 ทำให้แข่ง 16 นัดมีเพิ่ม 39 คะแนน นำ เชลซี อันดับ 2 ที่แข่งมากกว่า 1 นัด อยู่ 4 แต้ม ส่วน สเปอร์ส แพ้ในบ้านเป็นเกมที่ 3 จาก 4 นัดหลัง มี 23 แต้มเท่าเดิม หล่นไปอยู่อันดับ 11 ของตาราง

รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
สเปอร์ส (4-2-3-1)  : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ – เปโดร ปอร์โร, อาร์ชี เกรย์, ราดู ดรากูซิน, เจด สเปนซ์ – อีฟส์ บิสซูม่า, ป๊าปป์ ซาร์ – เดยัน คูลูเซฟสกี้, เจมส์ แมดดิสัน, ซน ฮึง มิน – โดมินิก โซลันกี้ 
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ –  เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ,โจ โกเมซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค,  แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ , ไรอัน กราเฟนแบร์ก – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์,  โดมินิค โซบอสซ์ไล , หลุยส์ ดิอาซ – โคดี้ กัคโป


บทความเพิ่มเติม