จากกรณีมีผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงประชาชนในพื้นที่ ต.หนองหัวช้าง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา นั้น

ด่วน! กราดยิงบึงกาฬ ดับ 2 เจ็บ 2 ตร.ล้อมจับชายคลั่งลั่นไกปลิดชีพตัวเองหนีผิด

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุด ที่ อาคาร 3 ศัลยแพทย์ โรงพยาบาลบึงกาฬ นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และนายแพทย์กมล แซ่ปึง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบึงกาฬ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย

นายจุมพฏ กล่าวว่า ได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงการ ช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุ ไม่ว่าจะเป็นกรณีการเสียชีวิต และบาดเจ็บ ซึ่งมีหลักเกณฑ์ในการมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาอยู่ เช่น ในส่วนของกองทุนยุติธรรม, สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด และเหล่ากาชาดจังหวัด ส่วนด้านค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บเข้าเกณฑ์ที่ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล ซึ่งวันนี้ทางจังหวัดก็มาเยี่ยมเยียน ดูแล และมีความห่วงใยต่อผู้ประสบเหตุและครอบครัว โดยจากการเข้าไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ขณะนี้ปลอดภัยทั้ง 3 ราย โดยมี 1 ราย อาการไม่น่าเป็นห่วง ถูกยิงเข้าที่ขา กระสุนไปโดนกล้ามเนื้อ ใช้เวลา 2 – 3 วันก็น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ ส่วนอีก 2 ราย กระสุนเข้าไปที่กระดูก ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์ในการเฝ้าดูอาการ และหลังจากนั้นจะมีการผ่าตัด รักษาตามอาการ ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ทั้ง 3 ราย ปลอดภัยแล้ว

โดยญาติผู้ก่อเหตุ ซึ่งก็คือผู้ได้รับบาดเจ็บตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะมีอาการทางจิตอยู่ คือมีอาการหูแว่วว่าจะมีคนมาทำร้าย แต่อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบ ไม่พบประวัติในการรักษาอาการป่วยทางจิต หรือยาเสพติด ซึ่งนายแพทย์กมล แซ่ปึง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบึงกาฬ กล่าวว่า กรณีผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต ค่อนข้างที่จะมีความยากในการคัดกรอง บางรายอาจจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองป่วย ขณะที่บางครั้งเวลาพูดคุยกับคนทั่วไปก็จะดูเหมือนคนปกติ ไม่ได้มีอาการอะไร จึงเป็นสิ่งที่ครอบครัว และชุมชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์

ขณะที่การป้องกันในระยะยาว ผู้ว่าฯ บึงกาฬ กล่าวว่า คงต้องมีการคุยกันในแต่ละหมู่บ้าน โดยจะต้องมีการแจ้งมาทางกำนันผู้ใหญ่บ้าน หรือท้องถิ่นด้วยว่า ในชุมชนมีบุคคลที่มีอาการ/ มีโอกาสที่จะป่วยอาการทางจิตหรือไม่ ซึ่งในปัจจุบันทางกระทรวงสาธารณสุขมีแอปพลิเคชัน MENTAL HEALTH CHECK IN ที่สามารถให้เราไปตรวจเช็คสุขภาพใจตัวเองได้ในเบื้องต้น ซึ่งอาจมีการนำไปใช้ในแต่ละพื้นที่ หากสมาชิกคนใดในชุมชนมีความเสี่ยงก็จะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาที่ถูกต้องต่อไป.