เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. จากกรณีเจ้าหน้าที่กิจการพิเศษเมืองพัทยาได้นำกำลังจับกุมกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ที่ลักลอบขายสินค้าบนทางสาธารณะบริเวณซอยพัทยาใต้ 15 ใกล้ทางเข้าถนนคนเดินวอล์กกิ้งสตรีท ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยหนึ่งในผู้ถูกจับกุมคือ น.ส.ณิชา อายุ 23 ปี แม่ค้าขายปลาหมึกย่าง เกิดอาการหัวเสียโวยวายว่าส่วยก็จ่าย ปลาหมึกก็ให้กินฟรี แถมยังมาจับกันอีก ขณะที่ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา สั่งตรวจสอบข้อเท็จตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา นำทีมแถลงข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่เรียกเก็บส่วยรายเดือน-รีดไถแม่ค้าปลาหมึกย่าง ร่วมด้วย นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา นายเกียรติศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รองปลัดเมืองพัทยา รักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยา และพ.ต.ต.จีรวัฒน์ สุคนธทรัพย์ ผู้อำนวยการส่วนปกครอง โดยมี น.ส.ณิชา อายุ 23 ปี แม่ค้าขายปลาหมึกย่าง และนางชู อายุ 45 ปี น้าสาว ร่วมให้ข้อมูล
โดยก่อนจะนำแม่ค้าปลาหมึกย่างมาแถลงข่าวได้มีการเรียกคุยสอบถามข้อเท็จจริง พร้อมทดลองนำเบอร์ที่ได้จากแม่ค้าปลาหมึกย่างโอนเงินไปยังหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวเพื่อตรวจสอบชื่อเจ้าของเบอร์จนทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่กิจการพิเศษ ซึ่งเป็นพนักงาน Outsource ของเมืองพัทยา โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 20 นาที
นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า จากการที่ได้พูดคุยกับน้องณิชา ยอมรับว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยมีเจ้าหน้าที่ของฝ่ายงานกิจการพิเศษเข้าไปเรียกรับผลประโยชน์ และเมื่อมีการนำรูปเจ้าหน้าที่มาให้ทำการชี้ตัว ทางแม่ค้าปลาหมึกก็สามารถชี้ตัวยืนยันว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับที่มีการเก็บเงินเดือนละ 1,000 บาท โดยจ่ายเงินมาแล้ว 4 เดือน แถมขอปลาหมึกย่างกินฟรี ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเจ้าหน้าที่คนละชุดกับที่เรียกเก็บเงินรายเดือน
แม่ค้าหมึกย่างเดือดโวยโดนเทศกิจจับ แฉอ้างจ่ายรายเดือนซ้ำไถกินฟรี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนที่เมืองพัทยาได้ว่าจ้างให้ดูแลเรื่องความปลอดภัย โดยทางเมืองพัทยาได้ประสานไปยังบริษัทเอกชนดังกล่าวให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่รายนี้โดยจะใช้ระยะเวลาไม่นาน ทั้งนี้หากตรวจสอบว่ากระทำผิดจริงก็จะดำเนินการตามระเบียบ รวมถึงการดำเนินคดีที่ทำให้เมืองพัทยาได้รับความเสียหาย โดยยืนยันว่า พนักงานรายนี้ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของทางหน่วยงานราชการ แต่เป็นพนักงานของบริษัทเอกชนที่เมืองพัทยาว่าจ้างมาปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจ
ทั้งนี้อยากจะฝากถึงพ่อค้าแม่ค้าว่า อย่าไปเสียเงินให้กับเจ้าหน้าที่ที่เรียกเก็บรายเดือน ซึ่งเมืองพัทยาไม่มีนโยบายให้เรียกเก็บเงินแต่อย่างใด และจะไม่ได้ช่วยอะไร เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่ดำเนินการจัดระเบียบพบการกระทำผิดขายของในที่สาธารณะและที่ห้ามขายหากพบก็จะจับกุมดังเดิม
น.ส.ณิชา เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะมาพบนายกเมืองพัทยารู้สึกเป็นกังวลว่าตัวเองจะไม่ได้รับความปลอดภัยรวมถึงเพื่อนร่วมอาชีพจะรวมตัวกันตำหนิในสิ่งที่ตนเองได้พูดออกไป แต่ด้วยตนเองมีการพูดออกไปแล้วก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ตัวเองพูด แต่ก็รู้สึกดีใจที่นายกเมืองพัทยาให้ความเป็นธรรมและลงมาแก้ไขในเรื่องนี้ โดยยืนยันว่าตนเองยอมจ่ายเงินเพราะตัดปัญหาเพราะถูกเจ้าหน้าที่รายนี้พูดจาข่มขู่ แต่หลังจากนี้หากตนเองกระทำผิดอีกก็จะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎระเบียบ
ขณะที่ นายวุฒิศักดิ์ รองนายกเมืองพัทยา ซึ่งดูแลในด้านนี้โดยตรง เปิดเผยว่า หลังจากนี้ไปจะมีการเข้มงวดรวมถึงจะเรียกเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการพูดคุยและจะกำชับไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก และอยากขอบคุณแม่ค้าปลาหมึกย่างที่มีความกล้าหาญเปิดเผยข้อเท้จจริงซึ่งจะทำให้เมืองพัทยาได้รู้ว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างไร เมื่อตรวจสอบพบกระทำความผิดก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ด้าน พ.ต.ต.จีรวัฒน์ สุคนธทรัพย์ ผู้อำนวยการส่วนปกครอง กล่าวว่า หลังได้ข้อมูลก็จะทำการตรวจสอบและเรียกเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวมาสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเป็นพนักงาน Outsource อยู่ฝ่ายกิจการพิเศษไม่ใช่เจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา ส่วนการดำเนินการเอาผิดนั้นจะดำเนินการตามระเบียบที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้หากพ่อค้าแม่ค้าที่ถูกเรียกเก็บเงินสามารถโทรฯ มาแจ้งได้ที่เบอร์ 083-768-4990