เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ร.ต.อ.ชม ชูรัตน์ รองสารวัตรสอบสวน สภเมืองนครพนม ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะแหกโค้ง ชนเสาไฟฟ้ามีขั้วสีชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณโค้งบ้านดงหมู ตำบลท่าค้อ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม จึงได้ประสาน แพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม รุดไปตรวจสอบพร้อมรถกู้ชีพสว่างนาวาธนม กู้ภัย VR ลำโขงเฟรนด์ชิพ กู้ภัยศรีสัตตะนครพนม และรถกู้ชีพอบตท่าค้อ ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน ทางหลวงหมายเลข 212 สายนครพนม ธาตุพนมฝั่งขาออกจากตัวเมืองนครพนม ริมทางพบรถกระบะยี่ห้อ Isuzu d-max 4 ประตูสีขาว สภาพพังยับเยินเป็นซากทั้งคัน
ใกล้กันพบเสาไฟฟ้าแรงสูง 1 ต้นหักโค่นทับรถคันดังกล่าว ภายใน มีผู้เสียชีวิตติดในห้องโดยสารรวม 4 รายเป็นชาย 2 ราย หญิง 2 ราย จึงประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาตัดกระแสไฟ ก่อนใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง ลำเลียงผู้เสียชีวิตออกมาชันสูตร ทราบชื่อภายหลังผู้เสียชีวิตคือ นายปวริศ พันหอ อายุ 30 ปี นายวัชระ คำด่าง อายุ 29 ปี นางสาวปณิตา อายุ 26 ปีนั่งเบาะหลังคนขับ นางสาวกรรณิกา อายุ 26 ปี ทั้ง 3 รายเป็นชาวบ้านนาทอน ตำบลนาท่อน อำเภอธาตุพนม เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทั้งหมด ภายหลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนครพนม ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างนาวาธาตุพนม เขต อ.เมืองนครพนม สมาคมกู้ภัยวีอาร์ลำโขงเฟรนด์ชิพ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ระดม นำเครื่องตัดถ่าง งัดร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากรถยนต์คันเกิดเหตุ ตรวจสอบพบกล้องหน้ารถยนต์ บันทึกเหตุการณ์ชัด เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบบื้องต้น ทราบชื่อคนขับที่เสียชีวิตติดคาซากรถยนต์ คือ นายปวริศ ทันหอ อายุ 30 ปี หรือ อาร์ ชาวบ้านหนาด ต.นากลาง อ.เมือง จ.นครพนม โดยก่อนเกิดเหตุ ได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ในตัวเมืองนครพนม รวม ทั้ง 4 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน
ขากลับจากข้อมูลหลักฐานกล้องหน้ารถยนต์ พบว่าขับด้วยความเร็วสูง พอถึงโค้งจุดเกิดเหตุ เชื่อว่าคนขับไม่ชินทาง เนื่องจากเป็นโค้งอันตราย ทำให้รถยนต์เสียหลัก ลักษณะท้ายสะบัดหลุดโค้ง เป็นเหตุให้พุ่งชนเสาไฟฟ้า จนเสียชีวิตคาที่ ส่วนชายคนขับ ทราบว่าปกติทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ จ.ชลบุรี ภรรยาเพิ่งคลอดลูกชายได้เดือนเศษ ช่วงนี้กลับมาบ้าน จ.นครพนม เพื่อติดต่อไปทำงานต่างประเทศ หาเงินสร้างครอบครัวแต่มาเกิดเหตุสลดทำให้ลูกชาย อายุแค่ 1 เดือน กำพร้าพ่อ
นางยุพา อายุ 47 ปี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ นายปวริศ ลูกชาย บอกว่าจะไปกินย่างไส้ที่บ้านเพื่อน ก่อนขับรถออกจากบ้านไปคนเดียว จะไปหาเพื่อน หรือใครตนก็ไม่ทราบ โทรศัพท์ไปหา ตั้งแต่ 19:00 น จนถึง 23:00 น ก็ไม่รับสาย ด้วยความเป็นห่วงจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกตามหา แถวริมเขื่อนแม่น้ำโขงในหมู่บ้านก็ไม่พบ แม่ผู้เสียชีวิตเก่าต่อว่าในช่วงประมาณ 01:00 น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโทรศัพท์มาแจ้งว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้วหนังรู้ข่าวตกใจแม่ชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงรีบให้ญาติมาขับรถไปที่เกิดเหตุ พบทางลูกชาย ได้ร้องไห้แทบขาดใจ หลังลูกชายคนโตรายนี้ ในจำนวน 3 คน ลาออกจากโรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีกลับมาบ้านได้ประมาณ 20 วันอยู่ระหว่างเดินเรื่องไปทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนภรรยา อยู่ที่จังหวัดชลบุรีจะตามมาในช่วงปีใหม่ จนกระทั่งมาเสียชีวิต เสียก่อน ทิ้งลูกไว้ 1 ปี 1 เดือนให้เลี้ยงดู ส่วน นายปรวิทย์ญาติได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านหนาดหมู่ 11 ตำบลบ้านกลาง ท่ามกลางความเศร้าสลดของญาติและเพื่อน ซึ่งจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 2 ธันวาคม ที่เมรุวัดจอมศรี