เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายพัชร์ภารุจ สุคนธร ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ฉะเชิงเทรา (ทสจ.ฉะเชิงเทรา) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผย ว่า จากนโยบายของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ได้สั่งการให้ ทสจ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้

ร่วมกันเข้าตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบมและป่าสียัด ในท้องที่ ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อปลูกทุเรียน โดยได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ 2 แปลง แปลงแรกเนื้อที่ 226 ไร่ แปลงที่สองเนื้อที่ 114 ไร่เศษ รวมเนื้อที่กว่า 340 ไร่ อย่างไรก็ตามคาดว่าเมื่อรวมพื้นที่บุกรุกทั้งหมดแล้วน่าจะมีถึง 500-1,000 ไร่ เป็นพื้นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ คทช. ที่กว้านซื้อต่อจากชาวบ้าน

นายพัชร์ภารุจ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ครอบครองสวนทุเรียนดังกล่าวคือ บริษัทแห่งหนึ่ง โดยพบว่ามีการปรับสภาพพื้นที่ปลูกต้นทุเรียน อายุประมาณ 1-2 ปี มีการวางท่อน้ำอย่างเป็นระบบ พร้อมขุดบ่อน้ำพื้นที่ประมาณ 7-8 ไร่ ความลึกราว 30 ม. มีการก่อสร้างอาคาร บ้านพัก และมีคนงานประมาณ 30 คน

จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวมีการจดทะเบียนจัดตั้งและมีเว็บไซต์เป็นทางการ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบการสั่งซื้อปุ๋ย และสารเคมีต่างๆ จากร้านค้าในพื้นที่ อ.เขาตะเกียบ และจ่ายเงินในรูปแบบบริษัท ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบลงลึกในรายละเอียด อย่างไรก็ตามวันนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้ตรวจสอบรังวัดพื้นที่ และคาดว่าจะสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ในวันที่ 20 ก.พ. นี้ หากพบว่าเป็นที่ดิน คทช. ที่จัดสรรให้ชาวบ้าน แต่มีการนำไปขายต่อ ก็จะมีการตรวจสอบว่ามีชาวบ้านรายใดเป็นผู้ครอบครอง และเพิกถอนสิทธิทำกินเด็ดขาดต่อไป

จากผลตรวจสอบในวันนี้ เบื้องต้นสรุปได้ว่า 1. พื้นที่แปลงปลูกทุเรียน มีจำนวน 2 แปลง เนื้อที่ รวม 344-0-75 ไร่ 2. เป็นแปลงคทช. ที่ได้รับอนุญาตแล้ว เนื้อที่ 138-2-90 ไร่ ให้สนง.ทสจ.ฉช. และหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ท่าตะเกียบ ตรวจสอบการครอบครองทำประโยชน์ แล้วนำเข้าที่ประชุม คทช.ฉะเชิงเทรา พิจารณาต่อไป 3. เป็นแปลงคทช. ที่ยังไม่ได้รับอนุญาต เนื้อที่ 108-1-3 ไร่ ให้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ฉช.3 หนองคอก รังวัดพื้นที่โดยละเอียด แล้วแจ้งความดำเนินคดีโดยด่วน และ4. ไม่เป็นแปลงคทช. เนื้อที่ 97-0-82 ไร่ ให้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ฉช.3 หนองคอก รังวัดพื้นที่โดยละเอียด แล้วแจ้งความดำเนินคดีโดยด่วน.