1. เจ้าบ้านปรับสองตำแหน่งตามคาด
แมนยูไนเต็ด เปลี่ยนโผนักเตะตัวจริงสองรายจากเกมบุกไปเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 2-2 ในเกมล่าสุดหลังโดนยิงนำหน้าก่อนถึงสองประตู
รูเบน อโมริม นายใหญ่โปรตุกีสส่ง เลนี่ โยโร่ กองหลังเฟรนช์แมนออกสตาร์ตแทน นุสแซร์ มาซราวี ที่เจ็บจากนัดก่อน แต่กองหลังทีมชาติ โมร็อกโก ฟิตมากพอที่จะนั่งเป็นตัวสำรองได้
นอกจากนี้ กาเซมีโร่ เสียตำแหน่งในทีมตัวจริงเช่นกันโดย อเลฮานโดร การ์นาโช่ ได้ออกสตาร์ตหลังปีกทีมชาติ อาร์เจนติน่า มีบทบาทสำคัญช่วยให้ทีมแบ่งแต้มจาก ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน ได้
สำหรับโผตัวสำรอง เจ้าบ้านใส่ชื่อนักเตะที่ไม่ใช่นายทวารเอาไว้แค่หกรายโดย ชิโด โอบี กองหน้าวัย 17 ปีอยู่ในโผเป็นนัดที่สามติดต่อกัน
อย่างไรก็ดี ถึงตอนนี้ อโมริม ไม่เคยใช้งานทีมชุดเดิมเลยแม้แต่หนเดียวเนื่องจากเขาเปลี่ยนโผนักเตะ 11 คนแรกมาโดยตลอดทั้ง 23 นัดนับตั้งแต่เข้ามารับงานแทน เอริค เทน ฮาก
2. ทีมเยือนได้อดีตแข้งผีพ้นแบน
อิปสวิช โรเตชั่นทีมสองรายเช่นกันหลังเกมเฝ้าบ้านแพ้ สเปอร์ส ยับเยิน 4-1
คีแรน แม็คเคนน่า อดีตโค้ช แมนฯยูไนเต็ด ได้ อักเซล ตวนเซเบ้ อดีตกองหลังเด็กสร้าง ผีแดง พ้นโทษแบนกลับมาลงสนามได้ ส่งผลให้ เบน ก๊อดฟรีย์ ที่เล่นได้อย่างย่ำแย่ในเกมดวลกับ ไก่เดือยทอง โดนดร็อปโดยไม่มีส่วนร่วมในเกมนี้
ขณะเดียวกัน ทีมเยือนขาด คาลวิน ฟิลลิปส์ ที่เจ็บจากนัดก่อน และเป็น แซม มอร์ซีย์ กัปตันทีมที่ได้กลับสู่แดนกลาง
3. ตาข่ายขาดก่อนยันเต
ไม่เพียงจะมีเกมรุกที่ไร้พิษสง แต่เกมรับของ แมนยูไนเต็ด ก็เลวร้ายเช่นกันหลังเสียประตูอย่างง่ายดายตั้งแต่ต้นเกมให้กับ อิปสวิช จากการก่อความผิดพลาดของ อ็องเดร โอนาน่า ที่ถลันออกมาหน้าปากประตูเร็วเกินเหตุทั้งๆที่ แพทริค ดอร์กู เข้าหาบอลได้ และทำให้การส่งบอลคืนหลังของวิงแบ็คทีมชาติ เดนมาร์ค กลายเป็นการเปิดโอกาสให้ จาเด็น ฟิโลจีน ตามไปเก็บตกง่ายดาย
หลังได้ประตูนำ ม้าขาว จึงประสบความสำเร็จสอยตาข่ายที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้เป็นเม็ดแรกนับตั้งแต่ คริส คิวอมย่า ทำได้ในเกม พรีเมียร์ลีก วันที่ 22 ส.ค.1992 ก่อนที่แมตช์นั้นจะจบลงด้วยผลเสมอ 1-1
นอกจากนี้ นับตั้งแต่ อโมริม คุมทีมเป็นนัดแรก ผีแดง เสียประตูให้ฝ่ายตรงข้ามก่อนในเกม พรีเมียร์ลีก มากกว่าทุกทีมรวม 12 ลูกแล้ว
อีกทั้งการเสียประตูตั้งแต่นาทีที่ 4 ทำให้ เร้ด เดวิลส์ ตาข่ายขาดในเกมบู๊กับทีมน้องใหม่ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เร็วที่สุดนับตั้งแต่ เจย์ โรดริเกซ ซัดให้ เซาธ์แฮมป์ตัน ได้ตั้งแต่นาทีที่ 3 เมื่อเดือนม.ค.2013
อย่างไรก็ดี นับจากปี 1992 แมนยูไนเต็ด กำชัยได้ 110 นัดแม้จะเป็นฝ่ายเสียประตูก่อนซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดในบรรดาทีมของ พรีเมียร์ลีก
4. ดอร์กู แบนเกมไหน?
นัดก่อนที่บุกไปแบ่งแต้มกับ เอฟเวอร์ตัน ได้ แมนยูไนเต็ด รอดพ้นจากการเสียลูกโทษในช่วงทดเวลาอย่างไม่น่าเชื่อทั้งๆที่มีการเช็กวีเออาร์ และก่อให้เกิดการทุ่มเถียงแตกความเห็นออกเป็นสองมุมมอง
แต่สำหรับเกมนี้ ดอร์กู หนีไม่พ้นได้ใบแดงจากจังหวะปรี่เข้ายันใส่หน้าแข้งของ ฟิโลจีน ในช่วงทดเวลาของครึ่งแรก และวีเออาร์ไม่ปล่อยผ่าน
ฉับพลันทันใด หลังเหลือนักเตะแค่สิบคน แมนยูไนเต็ด ซึ่งมีเกมรับที่อ่อนปวกเปียกอยู่แล้วเลยเสียประตูคืนให้ทีมเยือนตีเสมอ 2-2 อย่างรวดเร็วแม้จะส่ง มาซราวี ลงไปเติมแผงหลังแทน การ์นาโช่ หลังจาก มาตไตส์ เดอ ลิกต์ อุตสาห์ตะบันให้ทีมแซงนำ 2-1
แม้ประตูแรกที่เสียให้ทีม ม้าขาว ดอร์กู ไม่สมควรถูกตำหนิเนื่องจาก โอนาน่า จำเป็นต้องรับผิดชอบมากกว่า แต่สำหรับใบแดงใบนี้ ดาวเตะเดนส์สร้างความเสียหายให้ทีมโดยไม่จำเป็นเนื่องจากการทำฟาวล์ในลักษณะนั้นเสี่ยงต่อการโดนไล่ออกทั้งๆที่คู่กรณีไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่สามารถสร้างปัญหาอะไรได้เลย
หลังโดนตะเพิด ดอร์กู จึงเป็นนักเตะ แมนยูไนเต็ด อายุน้อยที่สุดที่ได้ใบแดงในเกม พรีเมียร์ลีก ด้วยวัย 20 ปี 123 วันถัดจาก ลุค ชอว์ ในวัย 19 ปี 211 วันเมื่อเดือนก.พ.2015
และเป็นเพราะได้ใบแดงโดยตรง แมนยูไนเต็ด จะเสีย ดอร์กู จากโทษแบนสามเกมเริ่มตั้งแต่ศึก เอฟเอ คัพ รอบห้าบู๊กับ ฟูแล่ม วันอาทิตย์นี้ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด รวมทั้งเกมลีกนัดต้อนรับ อาร์เซน่อล วันที่ 9 มี.ค.และบุกไปเยือน เลสเตอร์ วันที่ 16 มี.ค.
5. โชคดีที่เป็นม้าขาว
แม้จะเหลือสิบคน แต่น่าทึ่งไม่น้อยที่ ผีแดง ยิงประตูแซงนำ ม้าขาว เป็น 3-2 ได้ตั้งแต่ต้นครึ่งหลังจากการโขกลูกเตะมุมตุงตาข่ายของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์
และเป็นอันว่าทั้งสามประตูของ แมนยูไนเต็ด ล้วนเกิดจากลูกเซ็ตพีซทั้งสิ้นจากการเล่นของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส คนเดียวโดยไม่มีจังหวะโอเพ่น เพลย์เข้ามาเกี่ยวข้องเลยซึ่งนับเป็นครั้งที่สี่พวกเขาได้สามประตูในลักษณะเดียวกันนี้สำหรับเกม พรีเมียร์ลีก (ไม่นับรวมลูกโทษ) และเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกมแรกฉะกับ เลสเตอร์ ในเดือนก.ย. 2016
อย่างไรก็ดี น่าจะถือเป็นความโชคดีของ แมนยูไนเต็ด เช่นกันที่พวกเขาเหลือสิบคนในเกมบู๊กับ อิปสวิช หาไม่แล้วหากเป็นการดวลกับทีมอื่นที่มีพิษสงมากกว่านี้ก็ไม่แน่ว่า ผีแดง จะคว้าสามแต้มเต็มได้
ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะนับตั้งแต่ปี 2025 ม้าขาว เป็นทีมเดียวของ พรีเมียร์ลีก ที่ควานหาชัยชนะไม่ได้เลยจากผลงานเสมอสอง แพ้หก และเก็บแต้มได้น้อยที่สุดนับตั้งแต่เปลี่ยนปฏิทิน
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาเสียแต้มมากที่สุดในซีซั่นนี้ 22 แต้มหลังมีสกอร์นำหน้าคู่แข่งก่อนซึ่งดูแววแล้วทีมของ แม็คเคนน่า น่าจะต้องกลับไปลงเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ อีกคำรบ
