
สเปอร์ส พลาดเก็บชัยชนะในบ้านน่าเสียดายหลังขึ้นนำ ฟูแล่ม ไปก่อน แต่สุดท้ายโดนเจ้าสัวตามตีเสมอ 1-1 ต้องแบ่งแต้มกันไป
การจัดการกับ “เสียงรบกวนจากอาหาร” โดยไม่ต้องพึ่งยา ตามคำแนะนำจากแพทย์ลดน้ำหนัก
“เสียงรบกวนจากอาหาร” เป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก มันหมายถึงความคิดที่ครอบงำเกี่ยวกับอาหารที่ทำให้ชีวิตประจำวันหยุดชะงัก และทำให้การกินอย่างมีสติและสุขภาพดีเป็นเรื่องยาก เสียงในหัวที่เกี่ยวกับอาหารนี้สามารถกระตุ้นให้เราต้องการกินๆๆๆ แม้ว่าเราจะไม่หิวก็ตาม
แม้ว่าคำนี้จะเป็นคำที่กำลังได้รับความสนใจในตอนนี้ แต่สาเหตุและผลกระทบจากมันมีมานานแล้ว โดยเฉพาะในต่างประเทศเมื่อยาที่กำลังฮิตสำหรับการลดน้ำหนักอย่าง Ozempic และ Wegovy เริ่มได้รับความนิยม ซึ่งผู้ใช้บอกว่าทำให้อาการนี้หายไป
แต่เราจะจัดการกับเสียงรบกวนนี้โดยไม่ต้องพึ่งการรักษาทางการแพทย์ได้อย่างไร?
ดร.เจนน่า ได้มาแชร์เคล็ดลับใน TikTok @weightdoc สำหรับการจัดการกับเสียงรบกวนจากอาหารโดยไม่ต้องใช้ยา โดยอธิบายว่า “การปรับเปลี่ยนสิ่งกระตุ้นอาหารในสิ่งแวดล้อมจะช่วยได้มาก”
การทำให้สภาพแวดล้อมของเราไม่กระตุ้นความอยากอาหาร เป็นวิธีแรกในการจัดการกับเสียงรบกวนนี้ เช่น ถ้าคุณเห็นโฆษณาอาหารบนทีวีแล้วทำให้คุณอยากกิน ก็ลองหลีกเลี่ยงการดูโฆษณาเหล่านั้น หรือถ้าคุณมีขนมที่ยากจะต้านทานในบ้านก็ไม่ควรเก็บมันไว้ในบ้าน
นอกจากนี้ การเลือกทานอาหารที่มีสารอาหารสูง เช่น โปรตีนและไฟเบอร์ ก็ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักและสุขภาพโดยรวม โดยที่โปรตีนจะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มนาน ซึ่งจะช่วยลดการอยากอาหารที่เกิดจากเสียงรบกวน และไฟเบอร์ช่วยในการย่อยอาหารและการทำงานของลำไส้
ดร.เจนน่า ยังเน้นย้ำด้วยว่า การลดอาหารบางกลุ่มหรือการอดอาหาร อาจทำให้เสียงรบกวนจากอาหารยิ่งแย่ลงไป ดังนั้นควรฟังสัญญาณความหิวจากร่างกายและกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
การวางแผนและเตรียมอาหารล่วงหน้า ก็เป็นวิธีที่ดีในการหลีกเลี่ยงวงจรการกินที่ไร้สาระ และรักษาสุขภาพให้ดี ทั้งนี้นอกจากการควบคุมอาหารแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับการนอนหลับ และการจัดการกับความเครียด เพราะทั้งสองปัจจัยนี้สามารถช่วยลดเสียงรบกวนจากอาหารได้
โดยการนอนหลับที่เพียงพอสามารถลดการกินได้ถึง 500 แคลอรีต่อวัน และช่วยลดน้ำหนักได้ถึง 26 ปอนด์ ใน 3ปี หากรักษานิสัยการนอนที่ดีได้ ส่วนการจัดการความเครียดก็ช่วยได้เช่นกัน โดยการฟังเพลงผ่อนคลายหรือการทำสมาธิสามารถช่วยลดการอยากอาหารที่เกิดจากความเครียดได้