มาร์เก็ตเพลส

ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก วันพุธที่ 5 มีนาคม คู่ระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เปิดสนามปาร์ค เดส์ แพร็งซ์ ต้อนรับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 

เริ่มต้นเกม แซงต์-แชร์กแมง พยายามดันเกมรุกเพื่อหวังจะเบิกประตูแรกให้ได้ก่อนแต่ก็ทำได้แค่หวาดเสียว ขณะที่ ลิเวอร์พูลมีลุ้นจากจังหวะของ ดีโอโก้ โชต้า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน 

“เปแอสเช” คุมเกมได้ตลอดและมาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 20 จากจังหวะการประสานงานที่ยอดเยี่ยม ก่อนที่  ควิชา ควารัตสเคเลีย จะโชว์ลีลาการปั่นบอลอย่างงามเข้าประตู แต่กรรมการเช็ควีเออาร์แล้วปรากฎว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า ทำให้สกอร์ยังคงเสมอกัน 0-0 

หลังจากพลาดได้ประตู ปารีส เดินหน้าบุกแหลก และเกือบได้ประตูจาก บรัดเล่ย์ บาร์กโกล่า  แต่ได้ อลีสซง เบ็คเกอร์ โชว์เซฟอย่างยอดเยี่ยม ทำให้ “หงส์แดง” รอดการเสียประตูอีกครั้ง

เจ้าบ้านขย่มอย่างหนัก และมีโอกาสอีกครั้งจากการยิงของ ควารัตสเคเลีย แต่ก็ติดเซฟ อลีสซง หลังจากนั้นก็ไม่มีจังหวะหวาดเสียวจบครึ่งแรกสกอร์ยังคง 0-0 เหมือนเดิม

ครึ่งแรก เปแอสเช 0-0 ลิเวอร์พูล

สถานการณ์ยังคงเหมือนเดิม ปารีส ครองเกมได้เหนือกว่า และมีลุ้นได้ประตูจากจังหวะฟรีคิกของ ควารัตสเคเลีย แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ อลีสซง และอีกครั้งจากการยิงไกลแต่ก็ติดเซฟ “พ่อหมี” เหมือนเดิม 

แม้ว่า “หงส์แดง” จะตกเป็นรองเกือบทั้งเกม แต่แล้วในนาทีที่ 87 ดาร์วิน นูนเญซ ได้โอกาสทองผ่านบอลให้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์  ได้ซัดโล่งๆ บอลติดปลายมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า และทะลักเข้าประตู ทำให้ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 

หลังจากนั้นเจ้าบ้านพยายามที่จะทวงประตูคืนแต่ไม่สำเร็จ จบเกม ลิเวอร์พูล คว้าชัยชนะ 1-0 เก็บความได้เปรียบในเลกแรก ก่อนจะไปดวลกันเลกสองที่แอนฟิลด์ วันอังคารที่ 11 มี.ค.นี้ 

รายชื่อนักเตะทั้ง 2 ทีม

เปแอสเช (4-3-3) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า – อัชราฟ ฮาคิมี่, มาร์กินโญส, วิลเลี่ยน ปาโช่, นูโน่ เมนเดส – ชูเอา เนเวส, วิตินญ่า, ฟาเบียน รุยซ์ – ควิชา ควารัตสเคเลีย, อุสมาน เดมเบเล่, บรัดเล่ย์ บาร์กโกล่า 

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – โดมินิค โซโบซไล, ไรอัน กราเฟนแบร์(วาตารุ เอ็นโด น. 79) , อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ น. 85), หลุยส์ ดีอาซ (เคอร์ติส โจนส์ น.67),  ดีโอโก้ โชต้า (ดาร์วิน นูเญซ น. 67)