เมื่อวันที่ 4 มี.ค. โรคข้อเสื่อมปัญหาหลักที่พบมากสุดในผู้สูงอายุ โดยประเทศไทยพบผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมถึงร้อยละ 50 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นหนึ่งในปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญ ผู้ที่มีภาวะข้อเสื่อม หากไม่ได้รับการรักษาหรือปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม อาการของโรคจะดำเนินไปเรื่อย ๆ อาจทำให้เจ็บปวด ข้อเข่าผิดรูป เดินได้ไม่ปกติ ส่งผลให้ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ไม่สะดวก เกิดความทุกข์ทรมานทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจตามมา
โรคข้อเข่าเสื่อม (OA) เป็นโรคเสื่อมที่แย่ลงเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป มักส่งผลให้เกิดอาการปวดเรื้อรัง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (RA) เป็นโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ซึ่งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโจมตีเนื้อเยื่อที่แข็งแรงในข้อต่อ

ล่าสุด ดร.ทามิโกะ คัตสึโมโตะ ศาสตราจารย์ประจำแผนกโรคภูมิคุ้มกันและโรคข้ออักเสบที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้เตือนเกี่ยวกับอาหารที่มีสารก่อการอักเสบสูง เช่น อาหารแปรรูป จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคข้ออักเสบได้อย่างไร
ดร.ทามิโกะ คัตสึโมโตะ กล่าวว่า ปัจจุบัน โรคเรื้อรังส่งผลกระทบต่อผู้คนหนึ่งในห้าคน โรคนี้ทำให้เกิดความเจ็บปวดและตึง และอาจส่งผลต่อข้อต่อได้ แต่พบได้บ่อยที่สุดที่มือ เข่า สะโพก เท้า และหลังส่วนล่าง แม้ว่าการสูบบุหรี่จะเคยเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของโรคเรื้อรัง แต่ปัจจุบัน โรคนี้เกิดจากโภชนาการที่ไม่ดี การอักเสบเป็นส่วนสำคัญมาก เนื่องจากการอักเสบในร่างกายมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพต่างๆ ได้
อาหารที่ดีที่สุดสำหรับการลดการอักเสบ
ดร.คัตสึโมโตะ แนะนำ “อาหารจากแถบ Blue Zone” ซึ่งเน้นการรับประทานพืชเป็นหลัก และเสริมด้วยอาหารทะเล รวมถึงธัญพืช เมล็ดพืช และพืชตระกูลถั่ว แทนการบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมและเนื้อสัตว์จำนวนมาก เช่น
ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น บรอกโคลี เคล และกะหล่ำดอก ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและไฟเบอร์ ช่วยลดการอักเสบและบำรุงระบบภูมิคุ้มกัน

เมล็ดเจีย และเมล็ดแฟลกซ์ ช่วยลดการอักเสบและบำรุงระบบย่อยอาหาร เนื่องจากมีไฟเบอร์ โอเมก้า-3 และโปรตีนสูง
ปลา โดยเฉพาะปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 สูง เช่น ปลาแซลมอน ไม่เพียงแต่ช่วยลดการอักเสบ แต่ยังดีต่อสุขภาพหัวใจด้วย
ถั่วและเลนทิล เนื่องจากเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ช่วยลดการอักเสบและมีไฟเบอร์สูง ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด
น้ำมันมะกอก โดยพบว่าน้ำมันมะกอกที่บริสุทธิ์จะมีสารต้านการอักเสบ ที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกายและส่งเสริมสุขภาพหัวใจ
ทั้งนี้ มื้ออาหารควรประกอบด้วยผักและผลไม้คุณภาพสูงครึ่งหนึ่ง อีกหนึ่งในสี่ควรเป็นโปรตีนจากพืชหรือโปรตีนที่ไม่ติดมัน เช่น ถั่ว และเลนทิล และอีกหนึ่งในสี่ควรเป็นธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวสาลี หรือควินัว