มาร์เก็ตเพลส

เปิดเบื้องหลังไอเดียปรับเปลี่ยนโลโก้-มาสคอตซีเกมส์ ครั้งที่ 33 : PPTVHD36
January 29, 2025

จากการที่คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนด้านการออกแบบ พิจารณาให้มีการปรับปรุงสัญลักษณ์และสัญลักษณ์นำโชค ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ในปี 2025 จากเดิมที่มีการประกวดออกแบบ คัดเลือกและมอบรางวัลไปก่อนหน้านี้ ทางเพจ THACCA-Thailand Creative Culture Agency ได้มีการโพสต์ข้อความระบุข้อความถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้โดยมีใจความสำคัญดังนี้

“ซีเกมส์” ปรับโลโก้-มาสคอตใหม่ “อาเซียนพาราเกมส์” เคาะแล้ว 19 กีฬา

ไทยทุ่ม 2,055 ล้าน เจ้าภาพซีเกมส์-พาราเกมส์ เน้นเป็นเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม

ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 THACCA-Thailand Creative Culture Agency
โลโก้ที่จะใช้ในซีเกมส์ ครั้งที่ 33

-ไอเดียเบื้องหลังโลโก้และมาสคอตกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33
หลายคนอาจได้เห็นโลโก้และมาสคอตของกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 กันมาบ้างแล้ว  แต่เคยสงสัยไหมว่าผู้ออกแบบเขาคิดอะไรอยู่? วันนี้ THACCA – Thailand Creative Culture Agency  ในฐานะผู้ผลักดันการออกแบบนี้ ร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะมาเล่าให้ฟังถึงที่มาของแนวคิดที่อยู่เบื้องหลัง

-โลโก้: สมดุลระหว่างกฎเกณฑ์และความงดงาม
แนวคิดของโลโก้มาจากคำว่า “Play by the Rules” หรือการเล่นภายใต้กฎเกณฑ์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากกฎ กติกา และวินัยในเกมกีฬา  ที่แสดงให้เห็นว่า ความคิดสร้างสรรค์และกลยุทธ์สามารถนำไปสู่ความสำเร็จได้แม้อยู่ในกรอบที่กำหนด

การออกแบบโลโก้ใช้ ลายเส้นจากกรอบเขตสนามกีฬา ผสานกับ ลวดลายกริด จากศิลปะไทยดั้งเดิม ลองจินตนาการถึงเส้นลู่วิ่ง เส้นขอบสนามฟุตบอลที่มีทั้งเส้นตรงและเส้นโค้ง นำมาผสานกับลายสามเหลี่ยมทรงจั่วแบบศิลปะไทย ผลลัพธ์คือรูปทรงที่สะท้อนถึงความสมดุลระหว่างกฎเกณฑ์และความงามของศิลปะไทย

โลโก้ที่ได้จึงมีลักษณะเหมือนลู่วิ่งที่โค้งตัดกัน กลายเป็นรูปทรง “จั่วสามยอด” ซึ่งคล้ายกับ “คบเพลิง” ที่ลุกโชติช่วง ตัวอักษร “THAILAND 2025” ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากลายเส้นลู่วิ่งและเส้นขอบสนามเช่นเดียวกัน

ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 THACCA-Thailand Creative Culture Agency
มาสคอตที่จะใช้ในซีเกมส์ ครั้งที่ 33

– มาสคอต: สะท้อนความหลากหลายและความเป็นหนึ่งเดียว
สำหรับมาสคอต ตัวละครเหล่านี้ถูกออกแบบให้มีสีสันสดใสและมีชีวิตชีวา เพื่อตอกย้ำความหลากหลายและความเป็นหนึ่งเดียวในสังคมไทย มาสคอตแต่ละตัวสร้างขึ้นจาก ลวดลายเรขาคณิต  ที่ได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงเรขาคณิตที่ถูกถอดมาจากเส้นโครง รูปทรง หรือการสานในอัตลักษณ์ไทยดั้งเดิม

ดีไซน์ผสมผสานความทันสมัยกับอัตลักษณ์ไทย โดยใช้สีสันโดดเด่น เช่น เขียว น้ำเงิน ชมพู เหลือง  และแดง เพื่อสะท้อนบุคลิกของแต่ละตัว ขณะเดียวกัน สีหน้าและท่าทางที่ดูสนุกสนานยังแสดงถึงความสามัคคีและการเฉลิมฉลอง มาสคอตเหล่านี้จึงเป็นตัวแทนของความคิดสร้างสรรค์ การเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม และการส่งเสริมความหลากหลายในกีฬาและสังคม

-วิสัยทัศน์ระดับโลกในแบบฉบับไทย
โลโก้และมาสคอตนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025 ที่มุ่งเน้นการจัดงานระดับโลกที่ไม่เพียงรวมความเป็นหนึ่งเดียวของชาติสมาชิก แต่ยังนิยามภาพลักษณ์ใหม่ของกีฬาซีเกมส์ให้ผสมผสานวัฒนธรรมดั้งเดิมเข้ากับมุมมองสมัยใหม่ในระดับสากล 

การแข่งขันในครั้งนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองความสามัคคี ความเข้มแข็ง และความเป็นเลิศของนักกีฬาจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งโลโก้และมาสคอตที่ถูกออกแบบอย่างสร้างสรรค์ สะท้อนจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันกีฬาและความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมไทย สร้างสัญลักษณ์ที่โดดเด่นทั้งในระดับท้องถิ่นและนานาชาติ 

นี่คือที่มาของ “โลโก้ซีเกมส์ 2025 และเหล่ามาสคอต”
ผลงานการออกแบบโดย คุณธีรนพ หวังศิลปคุณ ครีเอทีฟไดเรคเตอร์ และผู้ก่อตั้ง TNOP DESIGN

โดยในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ได้มีการเพิ่มอีเวนต์ชิงเหรียญทองอีก 5 รายการ จากเดิมชิงชัย 569 เหรียญทอง เพิ่มเป็น 574 เหรียญทอง โดย 5 อีเวนต์ที่เพิ่มคือ เรือใบ 1 อีเวนต์ คีลโบ๊ต, กรีฑา 4 อีเวนต์ เดิน 20 กม.ชาย, เดิน 20 กม.หญิง, วิ่ง 3,000 เมตรชาย และ วิ่ง 3,000 เมตรหญิง โดยหลังจากนี้จะไม่สามารถเพิ่มอีเวนต์ใดๆ ได้อีกแล้ว

รวมทั้งมีการประกาศชนิดกีฬาในอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 จำนวน 19 ชนิดกีฬา ชิงชัย 536 เหรียญทอง ดังนี้ กรีฑา-วีลแชร์เรซซิ่ง, ยิงธนู, แบดมินตัน, ฟุตบอลคนตาบอด, บอคเซีย, หมากรุกสากล, จักรยาน, ฟุตบอลซีพี, โกลบอล, ยูโด, ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ, วอลเลย์บอลนั่ง, ยิงปืน, วีลแชร์บาสเกตบอล, ฟันดาบ, วีลแชร์เทนนิส, โบว์ลิ่ง และเทเบิลเทนนิส หลังจากนี้จะนำเสนอต่อสหพันธ์กีฬาคนพิการแห่งอาเซียนเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป

กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 แข่งขันระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 ที่กรุงเทพมหานคร, จ.ชลบุรี, จ.สงขลา ส่วนกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 แข่งขันระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2569 ที่ จ.นครราชสีมา

 


บทความเพิ่มเติม