เมื่อวันที่ 24 ก.พ.สำหรับคนใดที่รายได้น้อย รีบเลยในช่วงสิ้นเดือน มี.ค.2568 รัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนรอบใหม่ เพราะกำลังจะครบ 2 ปี หลังจากล่าสุดที่เปิดให้ลงทะเบียน เมื่อปลายปี 2565 เมื่อวันที่ 5 ก.ย.-31 ต.ค.
โดยทาง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ความคืบหน้าของการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่นั้น คาดว่าจะชัดเจนภายในเดือน ก.พ.นี้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะต้องเปิดลงทะเบียนภายในเดือน มี.ค.2568
ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และขั้นตอนการลงทะเบียนที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
ขณะเดียวกันได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ดำเนินการตรวจสอบทบทวนหลักเกณฑ์ทั้งเก่าและใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมกับการดำเนินงาน ป้องกันไม่ให้คนจนไม่จริงเข้ามาสวมสิทธิ ซึ่งในด้านเกณฑ์รายได้ครัวเรือนยังมีอยู่เหมือนเดิม
ขณะที่เกณฑ์เรื่องการถือครองที่ดิน จะทำให้สามารถตรวจสอบใช้ได้จริง พร้อมจะดูรายละเอียดในเรื่องสินทรัพย์ การถือครองสลาก และพันธบัตร
คุณสมบัติ ผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 รายใหม่
สัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป
รายได้ไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี
รายได้เฉลี่ยครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี
มีทรัพย์สิน เงินฝาก สลาก พันธบัตร และตราสารหนี้ภาครัฐ ไม่เกิน 100,000 บาท/คน
ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์(ตามที่กำหนด)
ต้องไม่มีบัตรเครดิต
มีวงเงินกู้ ที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และ/หรือ วงเงินกู้ ยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นต้น
ต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง สส. และ สว.
2 กลุ่มใหญ่ ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568
คนกลุ่มเดิม คือ ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ปัจจุบันจำนวน 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ กระทรวงการคลังจะนำรายชื่อไปคัดกรองอัตโนมัติ
คนกลุ่มใหม่ คือ คนที่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน คาดมีจำนวน 10 ล้านคน โดยมาจากประชาชนที่เพิ่งอายุครบ 18 ปี โดยคาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชัน “ทางรัฐ” สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน และเข้าเกณฑ์คุณสมบัติ รวมถึงกลุ่มตกหล่นที่ลงทะเบียนในปี 2565 แล้วยังไม่มีการยืนยันตัวตน
รับเงินช่วยเหลือ 1,545 บาท บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประกอบด้วย
วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน
วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน
วงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน…