จากกรณีข่าวที่ทางมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ ได้โพสต์เรื่องราวสุดสะเทือนใจ เมื่อวัยรุ่นรายหนึ่ง จับลูกหมาโยนลงน้ำวนซ้ำหลายครั้ง โดยหัวเราะอย่างสนุกสนาน ซึ่งเรื่องราวดังกล่าว กลายเป็นดราม่าทันที สังคมออนไลน์แห่วิจารณ์เดือดสนั่น และต่างเป็นห่วงเจ้าสุนัขตัวนี้ ยังปลอดภัยอยู่หรือไม่
อีกทั้ง ชาวเน็ตขุดคุ้ยเจอช่องทางโซเชียลของหนุ่มที่ตกเป็นข่าว โดยออกมาเคลื่อนไหวพร้อมอ้างว่า ที่ทำไปเพราะเห็บเยอะ ต้องจับอาบน้ำ ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้
รุมจวก ‘หนุ่มเหี้ยม’ จับลูกหมาโยนลงน้ำซ้ำๆ แห่ถามตอนนี้น้องยังมีชีวิตอยู่ไหม
‘หนุ่ม’อัดคลิปโยนหมาลงน้ำเคลื่อนไหวแล้ว อ้างเห็บเยอะต้องจับอาบน้ำ
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 68 มีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก “มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation – WDT” ได้ออกมาอัปเดตถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมระบุข้อความว่า “รออัปเดตเนื้อหาครับ เบื้องต้น เฟซปั่นเพื่อกลั่นแกล้งคนในคลิป หลังจากเกิดเหตุ คนในคลิปเป็นผู้อุปการะน้องโบโบ้ มีข้อมูลเจ้าของเฟซบุ๊กปั่นแล้วครับ เปิดตัวหนุ่ม 19 ปี ทะเลาะกับเพื่อน แล้วเพื่อนเอามาลงเฟซบุ๊กประจาน “น้องอาร์ม” เป็นนามแฝง คือ หนุ่มในคลิปที่จับน้องหมาโยนทะเลด้วยความคึกคะนอง น้องติดต่อมาที่มูลนิธิวอชด็อก ด้วยความเสียใจและสำนึกผิด พร้อมเปิดข้อมูลว่า เป็นคลิปเมื่อเดือนกันยายน ปี 2566 ที่ทะเลแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพร”
นอกจากนี้ “เป็นเรื่องของเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ที่ปัจจุบันทะเลาะกัน และแยกจากกันไปนานสองปีแล้ว ใช้เฟซบุ๊กปั่นของตนเอง แล้วนำคลิปมาลงเพื่อให้เสียชื่อเสียง นอกจากนั้น เพื่อนคนนี้ยังไปลงกล่าวหาและใส่ร้ายป้ายสีในเรื่องต่างๆ อีกหลายเฟซบุ๊ก ซึ่งน้องอาร์มกำลังดำเนินการแจ้งความให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด วอชด็อกขอให้น้องอาร์มรับผิดชอบการกระทำของตนเอง ด้วยการเข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองชุมพร ซึ่งน้องก็ยินดีและกล่าวขอโทษประชาชนคนรักสัตว์และสังคม”
อีกทั้ง “ที่ทำไปด้วยความคึกคะนองและแรงยุจากเพื่อนคนนี้ ซึ่งเป็นคนถ่ายคลิป น้องอาร์มไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน และพบเห็นลูกหมาจรจึงตั้งใจจะนำไปเลี้ยง โดยหลังจากเล่นสนุกจับหมาโยนทะเลแล้ว ก็กลับบ้านพร้อมน้องหมา ฝากให้อยู่กับครอบครัวของตนที่จังหวัดระนอง โบโบ้คือชื่อของน้องหมาตัวนั้น ปัจจุบันกลายเป็นแม่หมาไปแล้ว โดยมีลูกน้อยน่ารักอยู่เคียงข้าง ติดตามผลการมอบตัวรับโทษของน้องอาร์ม และการติดตามตัวอดีตเพื่อนรักคนนั้น ในฐานะผู้ร่วมกระทำการทารุณกรรมสัตว์ต่อไปครับ”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างบอกว่า “อยากให้น้องได้บ้านใหม่ค่ะ, ลูกเอ๋ย ขวัญมานะ, แล้วมีอะไรลงโทษคนผิดมั้ยคะ, เดี๋ยว ยังให้คนทำรับเลี้ยงอีกเหรอ” อีกด้วย..
ขอบคุณข้อมูล : มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation – WDT
