เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่? ในทุกครั้งที่ตื่นนอน ทำไมหลายๆครั้งเราถึงยังคงมีอาการงัวเงีย หรือยังง่วงนอนอยู่ ทั้งๆที่รู้สึกตื่นแล้วกันนะ? ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ม.ค. แฟนเพจที่มักเผยแพร่ความรู้ทางการแพทย์อย่าง “Tensia” ได้ออกมาไขข้อสงสัยโดยระบุว่า “งัวเงียเป็นความตั้งใจของร่างกายเรียกว่า Sleep inertia เป็นกลไกที่มีเพื่อให้เราหลับได้ง่ายขึ้นมาก หากตื่นขึ้นมากลางดึก”
ปกติแรงขับที่ทำให้เราง่วง มี 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ
1.แรงขับจากสมดุลในสมองขณะนั้น (Homeostatic pressure)
-ต่ำสุดหลังจากนอนหลับมาเพียงพอ
-สะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่ตื่นติดต่อกัน
-มีการกระเพื่อมขึ้นลงได้ตามกิจกรรม
-มีการควบคุมจากสมองหลากหลายส่วน
2.แรงขับจากนาฬิกาชีวิต (Circadian pressure)
-จะสูงสุดตอนที่นาฬิกาชีวิต set ไว้ตอนเวลาที่จะล็อกไว้ให้เข้านอน
-ทำงานโดย clock gene ร่วมกับสัญญาณจากแสงที่ส่งมากระตุ้น Master clock ที่ชื่อ Suprachiasmatic nucleus ในสมองส่วน hypothalamus

(1) กับ (2) คือแรงขับดันหลักที่จะทำให้เราง่วง ดังนั้นสำหรับคนที่ปกติ ที่ไม่มีปัญหาการนอน ช่วงใกล้ถึงเวลานอน จะง่วงขึ้นมาเพราะเจอ 2 pressure คือการสะสมช่วงเวลาที่ตื่นสร้าง homeostatic pressure และการถึงเวลานอนตามนาฬิกาชีวิตสร้าง circadian pressure “แต่ปัจจุบันพบว่ามีแรงขับสุดท้ายนั่นคือ sleep inertia หลังตื่นนั่นเอง เป็นสร้างแรงขับให้ง่วงสูงสุด ตอนเวลาเพิ่งตื่น และหายไปอย่างรวดเร็วในเวลาถัดมา” โดยตอนเกิด Sleep inertia จะยังมีอาการง่วงมาก และลดทักษะกระบวนการคิดทุกอย่าง เหมือนให้พร้อมจะนอนต่อ ยิ่งอดนอนมา ระยะเวลาของ sleep inertia ยิ่งนาน “กลไกในทางระบบประสาทปัจจุบันยังไม่ทราบ รู้แต่ว่าสมองส่วนที่ควบคุมการหลับยังทำงานอยู่ระดับหนึ่ง ยังมีการหลั่ง adenosine กระตุ้นการง่วงอยู่”
แต่ถ้าถามว่าทำไปเพื่ออะไร มีคำตอบค่ะ Sleep inertia ทำให้ผู้ที่เพิ่งตื่นมา พร้อมนอนต่อ โดยไม่ต้องนับ 1 ใหม่ เพื่อให้คนที่ตื่นขึ้นมาในเวลาที่ไม่อยากตื่น สามารถกลับไปนอนต่อได้ทันทีค่ะ กลไกนี้สำคัญมากในช่วงการนอนช่วงท้ายๆ เพราะยิ่งระยะเวลานอนมากขึ้น ระดับการหลับลึก จะลดลงเรื่อยๆ ปลุกง่ายมากขึ้น นั่นเพราะ pressure ทั้งสองระบบเริ่มต่ำลง “การตื่นมาในช่วงนี้จึงง่าย แต่ด้วย sleep inertia นี่แหละ ที่ทำให้กลับไปหลับต่อได้เลย ถ้าต้องการ”..
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Tensia