แน่นอนว่า การดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็น “เหล้า” หรือ “เบียร์” จะช่วงเวลาไหนก็ตาม ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อาการที่เราพบเจอหลังดื่มหนักนั่นคือ อาการแฮงค์ มึนหัว รวมไปถึงท้องเสีย เหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของ “ตับ”
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว Dr.Bùi Huy Cận จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยการแพทย์และเภสัชศาสตร์โฮจิมินห์ (สาขาที่ 3) ได้แนะนำว่า แม้แต่ในช่วงเทศกาลก็ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อสุขภาพที่ดี หากเมาแล้วควรดื่มน้ำ 5 ประเภทนี้ เพื่อช่วยบรรเทาอาการ และลดอาการไม่สบายหลังดื่มหนัก
1.น้ำกรอง
การดื่มน้ำช่วยเจือจางแอลกอฮอล์ในเลือด และช่วยเพิ่มการขับสารพิษออกจากร่างกาย
2.น้ำผลไม้
ส้ม, เกรปฟรุต, มะเขือเทศ น้ำผลไม้เหล่านี้มีวิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยให้ร่างกายฟื้นตัว และช่วยตับในการย่อยแอลกอฮอล์
3.น้ำขิงหรือน้ำชาขิง
ขิงช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และลดอาการคลื่นไส้อาเจียน โดยสามารถผสมน้ำผึ้งก่อนดื่มได้
4.น้ำถั่วเขียวหรือถั่วดำ
น้ำจากถั่วเขียวหรือถั่วดำ มีไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยขับสารพิษและลดอาการไม่สบายหลังดื่ม
5.น้ำแตงโม
น้ำจากแตงโมช่วยลดอาการเมาค้าง เช่น อาการคลื่นไส้ ปวดหัว และช่วยขับปัสสาวะด้วย
นอกจากนี้ เรายังสามารถซดน้ำข้าวต้ม หรือน้ำซุปอุ่นๆ เพื่อเติมพลังงานและเกลือแร่ที่สูญเสียไปจากการขับปัสสาวะ แต่อย่างไรก็ดี ผลไม้บางชนิดอย่างเช่น กล้วย และแอปเปิ้ล ก็สามารถช่วยแก้เมาได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย
ทั้งนี้ Dr.Bùi Huy Cận ยังได้เตือนว่า ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจัด เช่น น้ำมะนาว เพราะอาจทำให้กระเพาะอาหารระคายเคือง โดยเฉพาะหากยังมีแอลกอฮอล์ในกระเพาะอาหารอยู่
เมื่อรู้ถึงคุณประโยชน์ของน้ำ 5 ชนิดนี้กันแล้ว ก็ลองเลือกหามากินกันดู เพื่อเป็นการช่วยซับพอร์ตตับในยามที่ต้องกรำศึกในเรื่องของการดื่มแอลกอฮอล์ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดคือ การหลีกเลี่ยงดื่มไปเลยก็จะดีมาก.