มาร์เก็ตเพลส

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ศึกโมโตจีพี 2025 สนาม 5 รายการ สแปนิช กรังด์ปรีซ์ ที่เซอร์กิโต เดอ เฆเรซ-อังเคล นีอัตโต้ ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน 2568 จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

สำหรับ สนามเฆเรซ กลายเป็นเวทีแห่งความทรงจำสำหรับอเล็กซ์ มาร์เกซ นัดบิดชาวสแปนิชจากทีม BK8 Gresini Racing MotoGP หลังคว้าแชมป์เมนเรซได้อย่างยิ่งใหญ่ บิดเข้าเส้นชัยด้วยเวลา  40 นาที 56.374 วินาที 

BK8 Gresini Racing MotoGP
อเล็กซ์ มาร์เกซ สุดปลื้มคว้าแชมป์เมนเรซ ศึกโมโตจีพี สแปนิช กรังด์ปรีซ์ 2025

ถือเป็นชัยชนะครั้งแรกในพรีเมียร์คลาส และยังกลับขึ้นไปนำจ่าฝูงในตารางคะแนนสะสมโลก ทิ้งห่างพี่ชาย มาร์ค มาร์เกซ เพียงแค่ 1 คะแนน

เกมนี้เริ่มต้นด้วยความคาดหวังจากแฟนๆ ว่า มาร์ค มาเกซ เต็งหนึ่งของสนาม จะโชว์ฟอร์มเหนือชั้น แต่โชคร้ายที่เขาพลาดล้มในโค้ง 8 เปิดโอกาสให้ อเล็กซ์ ฉวยจังหวะทองนี้พลิกสถานการณ์ กดชัยชนะแรกของตัวเองในรุ่นใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้จะอยู่ในทีมที่ไม่ใช่ทีมโรงงานและใช้รถแข่งสเป็กเก่า แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าความเชื่อมั่นและการทำงานหนักสามารถชนะได้ทุกสิ่ง

หลังการแข่งขัน อเล็กซ์ เปิดใจกับ DAZN ถึงความรู้สึกสุดประทับใจว่า “มีความสุขมากจริงๆ เราพยายามและทุ่มเทอย่างเต็มที่ และในที่สุดมันก็ได้รับผลตอบแทน การได้แชมป์ครั้งแรก แถมยังเป็นที่เฆเรซอีก มันเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้” 

“ผมอาจจะเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลกตอนนี้ มากกว่ากูเล่แฟนบาร์ซ่าที่เพิ่งชนะเรอัล มาดริดซะอีกนะ “

นักบิดวัย 29 ปี กล่าวต่อว่าก่อนแข่งรู้สึกเหมือนมีจิตสัมผัสว่าชัยชนะจะเกิดขึ้นที่นี่ แม้จะไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมถึงรู้สึกเช่นนั้น และเมื่อเห็นมาร์คพลาดล้มไปในโค้ง 8 เขาก็ตั้งสติทันที ว่านี่แหละเป็นโอกาสที่ไม่ควรปล่อยให้หลุดมือ

“ตอนที่เห็นมาร์คล้ม ผมคิดเลยว่าวันนี้อาจจะเป็นวันของเรา เราพยายามหนีเหมือนที่ออสติน และเน้นขี่ให้สะอาดที่สุด ผมคิดว่าผมและทีมทำงานได้สมบูรณ์แบบแล้ว โชคดีที่เป้กโก้ไม่สามารถผ่านฟาบิโอได้ แต่ถึงจะผ่านได้ ผมก็เชื่อว่าผมคงรักษาช่องว่างได้อยู่ดี”

อเล็กซ์ กล่าวถึงการทดสอบหลังการแข่งขันในวันจันทร์นี้ว่า ทีมใหญ่อย่าง มาร์ค และ เป้กโก้ จะมีชิ้นส่วนใหม่ๆ มาทดลองแน่นอน แต่สำหรับเขาและทีม BK8 Gresini Racing MotoGP พวกเขาจะยังคงทำงานอย่างมีเป้าหมาย

“เราไม่ได้มีอะไรใหม่มากนัก แต่เรารู้ว่าจุดแข็งและจุดอ่อนของเราคืออะไร เราจะทำงานกับสิ่งที่เรามี และพยายามใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างที่ผมบอก หากชีวิตให้โอกาสอะไรกับเรา อย่างที่เกิดที่ออสติน ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครห้ามไม่ให้เราฝันได้ ผมจะลงแข่งแบบสนามต่อสนาม พยายามอย่างเต็มที่ไม่ให้ผิดพลาด แล้วค่อยดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป”

ชัยชนะที่เฆเรซครั้งนี้ไม่เพียงเติมเต็มความฝันของอเล็กซ์ มาเกซ แต่ยังยืนยันให้เห็นว่า ในโลกของโมโตจีพี อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ หากมีหัวใจที่ไม่ยอมแพ้

สำหรับโปรแกรมต่อไปเป็นสนาม 6 รายการ เฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ 2025 ที่เลอ มองส์ ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคม 2568