เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. นายอรรถพล พลจันทึก ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองจอก หมู่ 5 ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่า ในขณะเดินเล่นอยู่ข้างเนินดินริมอ่างเก็บน้ำซับประดู่ ท้องที่ ต.มิตรภาพ พบโครงกระดูกมนุษย์และเครื่องปั้นดินเผาโผล่พ้นพื้นดินขึ้นมาจำนวนมากจึงเดินทางไปดูก็พบโครงกระดูก เช่น หัวกะโหลก กระดูกซี่โครง ท่อนแขน และท่อนขา เชื่อว่าเป็นโครงกระดูกมนุษย์โบราณ รวมถึงเครื่องปั้นดินเผาประเภทไหและถ้วยชามกระจายเกลื่อนบริเวณ
นายอรรถพล เผยว่า เมื่อหลายเดือนมาแล้ว ทางชลประทานได้นำรถแบ๊กโฮมาขุดดินพื้นที่รอบๆ อ่างเก็บน้ำซับประดู่เพื่อทำสันเขื่อนซึ่งไม่มีใครสนใจว่าขุดอะไรขึ้นมาบ้าง กระทั่งเมื่อฝนตกลงมาชะหน้าดินจึงทำให้มองเห็นโครงกระดูกมนุษย์และเครื่องปั้นดินเผาโผล่พ้นดินขึ้นมาจำนวนมากดังกล่าว จากนั้นนายอรรถพล ได้รายงานให้ นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอสีคิ้ว ทราบ และนายสานิตย์ได้แจ้งเรื่องไปที่สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา เพื่อดำเนินการสำรวจและขุดค้นต่อไป
เบื้องต้น นายจรูญ ด้วงกระยอม รองผู้อำนวยการ “โคราชจีโอพาร์ค” ซึ่งเป็นองค์กรที่ยูเนสโกรับรองเป็นอุทยานธรณีโลกดูแลในพื้นที่ 5 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา คือ สีคิ้ว, สูงเนิน, ขามทะเลสอ, เฉลิมพระเกียรติ และอำเภอเมืองนครราชสีมา ได้เดินทางมาตรวจสอบพื้นที่และโครงการดูกรวมถึงเครื่องปั้นดินเผา ก่อนจะเปิดเผยว่า ในพื้นที่ที่พบกระดูกมนุษย์สมัยโบราณนี้ น่าจะเคยเป็นชุมชนขนาดใหญ่ซึ่งจากการวิเคราะห์โครงกระดูกและดูลายจากเครื่องปั้นดินเผาและสิ่งของที่พบนี้ คาดว่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 1,008 ปี ซึ่งจะร่วมกับกรมศิลปากรสำรวจตรวจสอบต่อไป