เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 68 พ.ต.ท.พิศลย์ ผาสุก สว.(สอบสวน) สภ.ท่าตะโก ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถตู้ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง มีผู้เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนทางหลวงหมายเลข 11 สายไดตาล-น้ำสาดเหนือ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 84+801 พื้นที่บ้านคอกควายใหญ่ หมู่ 16 ต.ดอนคา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับหน่วยกู้ชีพ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย
ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 82-8552 นครสวรรค์ จอดอยู่ข้างทาง ในสภาพด้านท้ายตัวพ่วงถูกชนได้รับความเสียหาย ส่วนใกล้กัน พบรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ฮย-1066 นครสวรรค์ จอดอยู่กลางถนน ในสภาพรถพังยับเยิน หลังคารถหายไปทั้งแถบ โดยมีผู้เสียชีวิตติดคาอยู่กับซากรถตู้ทั้งหมด 4 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 2 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพระภิกษุสงฆ์ รวมอยู่ด้วย 1 รูป และนอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่มากับรถตู้คันเดียวกัน อีก 5 ราย ถูกทางหน่วยกู้ชีพนำตัวส่งไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลก่อนหน้านี้แล้ว
ส่วนคนขับรถบรรทุกพ่วง ทราบชื่อคือ นายรอ ช้างเนียม กำลังยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้สอบถามข้อมูลในเบื้องต้น ให้การว่า กำลังขับรถพ่วงคันดังกล่าว เดินทางไปรับบรรทุกอ้อยในพื้นที่ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ แต่ในระหว่างขับมา ปรากฏว่า ได้ยินเสียงก็อกๆ แก็กๆ จึงพยายามชะลอรถเปลี่ยนเลน เพื่อไปจอดเช็กรถข้างทาง แต่ในระหว่างที่กำลังจะจอดรถอยู่นั้น ปรากฏว่า จู่ๆ ก็มีเสียงดังมาจากด้านท้ายรถ พร้อมกับเห็นภาพสยอง เมื่อมีรถตู้ สภาพพังเละ และมีศพติดอยู่คารถ วิ่งแซงรถของตนไปก่อนที่จะไปจอดหยุดอยู่กลางถนนตรงหน้ารถของตน
นอกจากนี้ นายรอ ยังระบุด้วยว่า ในช่วงเกิดเหตุ ได้รีบวิ่งออกจากรถไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บออกมาจากรถตู้ ซึ่งก็ได้มีการสอบถามกับพระที่มากับรถรูปหนึ่ง บอกว่า คนรถตู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีอาการง่วงมาตั้งแต่เช้าแล้ว
ขณะที่ พ.ต.ท.พิศลย์ ได้กล่าวภายหลังตรวจที่เกิดว่า เบื้องต้น รถตู้คันที่ประสบอุบัติเหตุชนท้ายรถบรรทุกพ่วง เป็นรถคณะสายบุญที่เดินทางมาจากวัดธรรมกาย และกำลังจะไปแสวงบุญที่วัดสาขาแห่งหนึ่งใน จ.พิจิตร แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเสียก่อน ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้น กำลังอยู่ในระหว่างการสอบปากคำทั้งคนขับรถบรรทุกพ่วง รวมถึงผู้บาดเจ็บ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป แต่ในเบื้องต้น คาดว่า คนขับรถตู้น่าจะหลับใน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุสลดขึ้น.
