เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลุ้นผลคะแนนเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่ บมจ.ธนะวงศ์กรุ๊ป ต.เวียง อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นจุดที่นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 1 และทีมงานใช้เป็นจุดลุ้นผลคะแนน โดยช่วงแรกบรรดากองเชียร์ต่างหายใจไม่ทั่วท้อง แต่พอเลยครึ่งหลัง คะแนนพลิกกลับมานำ ทำให้บรรดากองเชียร์ส่งเสียงเฮด้วยความดีใจตลอดช่วงที่มีการอัพเดทคะแนน จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. ที่ใกล้นับคะแนนเสร็จสิ้น และผลปรากฏว่าคะแนนนำห่างคู่แข่งอยู่เกือบ 2 หมื่นคะแนน บรรดากองเชียร์ต่างแสดงความดีใจกันถ้วนหน้า
โดยผลการนับคะแนนการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย อย่างไม่เป็นทาง ปรากฏว่า นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 1 มีคะแนนนำห่าง นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 2 ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีสนับสนุน หลังจากนับคะแนนหลังได้ 95% กว่า นางอทิตาธร ได้คะแนน 249,845 คะแนน นางสลักจฤฎดิ์ ได้คะแนน 230,262 ทิ้งห่างเกือบ 20,000 คะแนน คาดว่าคะแนนไม่สามารถพลิกกลับได้แล้ว และนางอทิตาธร น่าจะสามารถรักษาเก้าอี้นายก อบจ.เชียงราย ต่ออีก 1 สมัย เอาชนะพรรคใหญ่อย่างเพื่อไทยที่ต้องการล้างตาในสนามเลือกตั้งครั้งนี้อย่างเต็มที่ เพราะพรรคเพื่อไทยเคยแพ้ผู้สมัครคนเดียวกันนี้ในการเลือกตั้ง อบจ.เมื่อปี 63 แต่สุดท้ายก็สู้ไม่ได้อย่างที่หวัง พ่ายไปอีกรอบ
นางอทิตาธร เผยว่า ผลคะแนนที่ออกมาตนถือว่าเกินกว่าที่คาดหมาย ทีแรกประเมินว่าผลแพ้ชนะจะอยู่ที่ประมาณหลักพันคะแนน แต่กลัวปรากฏว่าชนะไปได้ประมาณ 1 หมื่นกว่าคะแนน รู้สึกดีใจกับความเปลี่ยนแปลงของชาว จ.เชียงราย ที่วันนี้เราได้ก้าวผ่านมาอีกระดับหนึ่ง ในเรื่องความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างการเมืองท้องถิ่นและการเมืองระดับประเทศ ซึ่งมีบริบทที่แตกต่างกัน ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายของการพัฒนาทางด้านการเมืองของประชาชนชาวเชียงราย
สำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.อบจ. ซึ่งกำลังเช็คจำนวนผู้ที่ได้รับเลือกตั้งที่แน่นอนกันอยู่ แต่คาดว่าทีมงานที่ส่งลงสมัครจะได้รับเลือกตั้งเข้ามาประมาณ 60% หายไปประมาณ 40% แต่ตนคิดว่าผู้ที่รับการเลือกตั้งเป็น ส.อบจ. ที่ได้รับเลือกเข้ามาทำงานทุกคนมีความตั้งใจจะเข้ามาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ของตนเองอยู่แล้ว คิดว่าสามารถจะร่วมงานด้วยกันได้ ไม่มีปัญหาอะไร
“ผลคะแนนที่ออกมาตนคิดว่าชาวเชียงรายเริ่มมีความพัฒนาในความคิดทางการเมือง การแยกแยะระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับในส่วนของภาครัฐ ตนคิดว่าประชาชนเข้าใจในเรื่องนี้ และที่สำคัญถือเป็นการเติบโตของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่เขาอยากจะเห็นความเข้มแข็งทางการเมือง ก็อยากจะขอบคุณมากๆ ขอบคุณทุกภาคส่วนจริงๆ อยากจะขอบคุณประชาชนชาวเชียงรายที่ให้กำลังใจ อยากขอบคุณชาวเชียงรายที่เห็นแก่อนาคตของชาวเชียงราย อยากเห็นการพัฒนา ตนคิดว่านับจากนี้เป็นต้นไปเราจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของจังหวัดเชียงรายในแนวโน้มที่ดีขึ้น และอยากจะขอบคุณทีมงานที่เหน็ดเหนื่อยมาด้วยกันในช่วงหาเสียง ขอบคุณผู้ที่สนับสนุนทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ที่คอยให้คำแนะนำ คอยให้กำลังใจตนมาโดยตลอด ขอบคุณทุกคนมากๆ” นางอทิตาธร กล่าว
