เมื่อวันที่ 14 ก.พ. พ.ต.ท.พีระ ราศรี สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนตกต้นไม้เสียชีวิตในพื้นที่ บ้านหนองแก หมู่ที่ 5 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุจึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี รุดไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุอยู่หลังบ้านใต้ต้นมะขามขนาดใหญ่สูงกว่า 10 เมตร ที่โคนต้นมะขามพบศพ นายอนุสรณ์ (สงวนนามสกุล) หรือ อู้ด อายุ 65 ปี นอนหงายเสียชีวิต แพทย์ชันสูตรเบื้องต้นพบว่าคอหัก เกิดจากการกระแทกอย่างแรง
จากการสอบสวน น.ส.กิตติณัฏฐ์ (สงวนนามสกุล) หรือ โก อายุ 54 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิตให้การอ้างว่า วันนี้เป็นหยุด สามีจึงชวนตนและลูกชายมาหาแม่ที่บ้านพี่สาว ซึ่งก็คือบ้านหลังนี้ จากนั้นได้ชวนกันขึ้นไปเก็บมะขามเปรี้ยว ที่ต้นมะขามหลังบ้าน โดยมีสามีกับหลานเขยปีนขึ้นไปบนต้น ก่อนใช้มีดพร้าตัดกิ่งที่อยู่ต่ำและกิ่งที่จะแทงเข้าหลังคาบ้าน ส่วนตนและญาติคนอื่นเก็บมะขามแยกใส่ถุงปุ๋ยอยู่ด้านล่าง ตอนเกิดเหตุตนไม่เห็น เพราะก้มหน้าเก็บมะขามอย่างเดียว ได้ยินแต่เสียงดังตุ้บ หันไปดูก็เห็นสามีนอนหงาย แต่ยังมีลมหายใจอยู่ จึงรีบโทรฯ แจ้งกู้ชีพแต่สุดท้ายก็ไม่ทันการณ์
“..ครอบครัวแยกไปอยู่บ้านอีกหลังท้ายหมู่บ้าน สามีเคยรับเหมาก่อสร้าง แต่พออายุมากแล้วจึงให้อยู่บ้านเฉย ๆ ปกติก็จะมาหาแม่ที่บ้านนี้เป็นประจำ พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของเขา คิดว่าวันวาเลนไทน์ จะไปซื้อทอง 1 สลึงมาเซอร์ไพร้ส์เขาด้วย ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุเช่นนี้ได้ อยู่กินกันมาเกือบ 40 ปี แต่กลับมาตายแบบไม่ทันร่ำลากันเลย…” น.ส.กิตติณัฏฐ์ กล่าวทั้งน้ำตา
ด้าน นางสำรอง (สงวนนามสกุล) อายุ 71 ปี พี่สาวผู้ตาย เล่าว่า ตนฝันร้ายมาเกือบอาทิตย์แล้ว ฝันว่านั่งอยู่ดี ๆ ฟันหลุดออกมาเฉย จึงโยนขึ้นไปหลังคาบ้าน เพราะโบราณเขาว่าเป็นเรื่องไม่ดี จะมีคนในครอบครัวตาย เมื่อเช้านี้ก็ยังมานั่งคุยกันอยู่เลยว่า ฝันนี้จะเป็นจริงหรือไม่ จะมีใครในครอบครัวเสียมั้ย ตอนแรกยังคิดว่าจะแม่ เพราะแม่อายุเยอะมากแล้ว น้องชายแข็งแรงดีไม่มีโรคประจำตัวอะไร ไม่นึกว่าจะเป็นน้องชาย ที่มาตกต้นมะขามเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตา
เบื้องต้นตำรวจได้ถ่ายภาพเก็บหลักฐานไว้ทั้งหมด สอบปากคำทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ คาดว่าผู้ตายกับหลานเขยขึ้นไปบนต้นไม้เพื่อตัดกิ่งไม้ 2 คน หลานเขยลงมาแล้ว ส่วนผู้ตายยังอยู่ด้านบน คาดว่าระหว่างผู้ตายกำลังจะปีนต้นไม้ลงมา อาจจะลื่นแล้วพลัดตกลงมาศีรษะกระแทกพื้น ญาติไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
