เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่กลายเป็นไวรัลอย่างมากอยู่ในขณะนี้ เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 68 มีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก “หมอแล็บ” ได้ออกมาโพสต์ข้อความประกาศเตือน “ไข้อีดำอีแดง” ที่กำลังระบาดอยู่ขณะนี้ ซึ่งมีบางโรงเรียนที่ต้องหยุดเรียนบางแห่ง เพื่อป้องกันการระบาด และพ่อแม่ควรสังเกตอาการผื่นแดงขึ้นตามตัว เชื้อนี้สามารถติดต่อผ่านการไอหรือจาม พร้อมเผยวิธีรักษาหากมีอาการเหล่านี้

โดย เพจหมอแล็บ ระบุข้อความว่า “ไข้อีดำอีแดงระบาด บางโรงเรียนต้องหยุดเรียน โดยไข้อีดำอีแดง (Scarlet Fever) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรีย สเตรปโตคอคคัสชนิดเอ มักจะเจอในเด็กวัยเรียน อายุ 5-15 ปี”

นอกจากนี้ แบคทีเรียชนิดนี้สร้างสารพิษได้ ทำให้เกิดผื่นแดงขึ้นตามตัว และเชื้อนี้สามารถติดต่อผ่านการไอหรือจาม และการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก อีกทั้งการใช้ของร่วมกัน เช่น ของเล่น หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ

อีกทั้ง อาการผู้ป่วยมักจะแสดงอาการภายใน 1 สัปดาห์หลังติดเชื้อ ซึ่งมีดังนี้
1. มีไข้สูง
2. เจ็บคอ อาจมีหนองหรือจุดเลือดออกที่ต่อมทอนซิล
3. ผื่นแดงสากคล้ายกระดาษทราย เริ่มจากลำตัวและกระจายไปแขนขา มักไม่ขึ้นที่ใบหน้า แต่แก้มจะแดงและมีวงซีดรอบปาก
4. ลิ้นแดงเป็นปุ่มๆ คล้ายสตรอเบอร์รี่
5. อาการอื่นๆ เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ต่อมน้ำเหลืองโต หนาวสั่น และปวดท้อง

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นเชื้อแบคทีเรีย ก็เลยรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ซึ่งถ้าไม่รักษาอาจเกิดอาการแทรกซ้อน เช่น โรคไข้รูมาติก หรือหน่วยไตอักเสบเฉียบพลันได้ ถ้าพบการระบาดก็ควรให้หยุดเรียนหรือแยกตัวเด็กป่วยออกจากคนอื่นจนกว่าได้ยาปฏิชีวนะไปแล้วอย่างน้อย 24 ชั่วโมงจึงจะไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่นต่อไป

ขอบคุณข้อมูล : หมอแล็บ