เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่กลายเป็นไวรัลอย่างมากอยู่ในขณะนี้ หลังเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 68 มีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก “drama-addict” ได้ออกมาโพสต์เตือนภัยของเกี่ยวกับบัตรเครดิตของผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่ไปสถานที่ออนเซ็นและถูกมิจฉาชีพขโมยบัตรเครดิตไปรูด จนเสียหายเกือบแสน อีกทั้งยังมีเหยื่ออีกมากมาย ที่โดยรูดบัตรเครดิตลักษณะเช่นเดียวกันอีกด้วย

โดยเพจ drama-addict ได้นำเรื่องราวออกมาเตือนภัยว่า “วันนี้ 4 มกราคม 2568 เราไปใช้บริการออนเซ็นชื่อดัง เข้าใช้งาน 15.00 น. -17.15 น. ตรงบริเวณล็อคเกอร์ชั้นผู้หญิง ไม่น่ามีกล้องวงจรปิด เพราะคนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าตรงนั้นกันเลย เป็นล็อคเกอร์ดิจิตอล ปลดล็อคด้วยสายข้อมือ ที่มีเลขล็อคเกอร์ของใครของมัน ตัวล็อคแน่นหนาดี เช็คทุกครั้งว่าปิดสนิท จากนั้นเราออกจากออนเซ็นไปทานข้าววันเกิดกับเพื่อนๆ มียอดรูดบัตรเข้ามา 3 ยอด (49,000 + 29,000 + 7,900) ช่วงเวลา 18.43 น. -18.45 น. ยอดรวมเกือบแสน 85,900 บาท คือ เต็มวงเงินที่เหลือของเราเลย ต่อให้รู้ตัวตอนนั้นก็น่าจะล็อคบัตรในแอปพลิเคชันไม่ทัน”

อีกทั้ง “เช็คแล้วว่ามีการแจ้งเข้ามาทางแอปพพลิเคชันไลน์ ว่ามีการรูดใช้งานทั้ง3ยอด แต่เธอไม่ได้แตะโทรศัพท์ช่วงนั้นเลยรู้ตัวค่อนข้างช้าเธอมารู้ตัวจริงๆตอนรูดซิปเปิดกระเป๋าเงินตอน 21.00 น. ว่าบัตรเครดิตหายไป แต่บัตรเครดิตธนาคารอื่นอีก 2 ใบยังอยู่ เพราะเก็บไว้ช่องอื่นๆน่าจะมองไม่เห็น เธอรีบโทรแจ้งอายัดบัตรกับทางธนาคารเรียบร้อย ทางธนาคารแจ้งว่าจะ hold ยอดไว้ให้ แต่ต้องมีใบแจ้งความเพื่อทำเรื่องทักท้วงยอด เพราะคุณตำรวจบอกว่าเป็นคดีลักทรัพย์”

นอกจากนี้ เจ้าของโพสต์บอกอีกว่า “เพื่อนคนรู้จักเจอเหตุการณ์เดียวกันที่ ออนเซ็นแถวหนึ่ง ไม่นานมานี้มีคนออกมาเตือนภัยในทวิตเตอร์ตอนสิ้นปีค่ะ อีกทั้ง ในล็อคเกอร์เธอเก็บมือถือ กระเป๋าแบรนด์เนม และเงินในกระเป๋าเงินทั้งหมดอยู่ครบ ไม่มีอะไรหายนอกจากบัตรเครดิต1 ใบ และบัตรเดบิต1 ใบ (บัตรเดบิตไม่มีการรูดใช้งาน) มั่นใจว่าไม่ได้ทำหายเอง เพราะไม่ได้หยิบมาใช้งานเลย และกระเป๋ามีช่องซิปปิดสนิท คิดว่าถ้าขโมยอย่างอื่นด้วย ซึ่งเธอน่าจะรู้ตัวเร็วกว่านี้ค่ะ”

อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างบอกว่า “มิจฉาชีพเยอะจริง, มีหลายเคสแล้วนะแบบนี้ สถานที่นี้, ไม่กี่อาทิตย์ก่อนหหน้านี้ ก็เกิดเคสแบบเดียวกันที่ออนเซ็นเหมือนกัน เวลาเดียวกัน แต่ไม่รู้ร้าน เห็นทีแล้วว่าถ้าไปร้านพวกนี้ ต้องไม่พ่วงบัตรเลย” อีกด้วย…

ขอบคุณข้อมูล : “drama-addict