เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 67 พ.ต.ต.เสกสรร จันทร์เกลี้ยง สว.ป.สภ.บางศรีเมือง รับแจ้งเหตุหญิงสาวถูกแฟนหนุ่มคลุ้มคลั่งจับมัด และทำร้ายร่างกายอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง ในชุมชนวัดป่าเรไร ซอยบางศรีเมือง 24 ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พร้อมนำอุปกรณ์สยบคลั่งเป็นไม้ง่าม เข้าช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน 2 ชั้น ภายในบ้านปิดเงียบ เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกคนในบ้านสักพัก ก่อนที่นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี จะยอมเปิดประตูบ้านออกมา จากนั้นนายซี ได้พาเจ้าหน้าที่เข้าไปภายในบ้านพบ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี แฟนสาวของนายเอ กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำชั้นล่างมีท่าทีเหมือนหวาดกลัว ตาบวมเหมือนคนร้องไห้ แต่ น.ส.บี กลับบอกว่าไม่ได้ถูกแฟนหนุ่มทำร้าย เจ้าหน้าที่จึงพา น.ส.บี ออกจากบ้านเพื่อแยกกันสอบถามข้อเท็จจริง

โดยนายเอ ให้การปฎิเสธว่า ไม่ได้ทำร้ายร่างกายแฟนสาว แต่เป็นโรคหึงหวง ชอบคิดไปเองว่าแฟนสาวแอบนอกใจ ไปคบกับผู้ชายคนใหม่ จึงมีปากเสียงกันเป็นประจำ แต่ไม่เคยลงมือทำร้ายร่างกาย มีแต่ทำร้ายตัวเองเท่านั้น

น.ส.บี กล่าวว่า ตนกับแฟนหนุ่มคบหากันมาประมาณ 3 ปี ตนถูกทำร้ายร่างกายเป็นประจำ โดยเฉพาะเวลาที่เขานำยาผู้ป่วยจิตเวชของแม่เขามากิน ทำให้เขาเกิดอาการหลอนจากยาที่กินเข้าไป ถ้าเขาไม่กินยาตัวนี้ก็จะเป็นปกติไม่อาละวาดหรือโมโหง่าย เมื่อคืนที่ผ่านมาถูกแฟนหนุ่มกล่าวหาว่าแอบหนีออกจากบ้านไปหาผู้ชายคนอื่น ซึ่งเขาระแวงจากฤทธิ์ยาที่กินหรือหลอนยาก็ไม่รู้ จึงทำให้มีปากเสียงกัน เพราะแฟนหนุ่มพยายามจะคาดคั้นให้รับสารภาพว่าตนแอบออกจากบ้านไปหาผู้ชายคนอื่น ทั้งๆ ที่ตนไม่ได้ออกจากบ้าน แฟนหนุ่มจึงเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมา ใช้มือตบหน้าตนและใช้มีดฟันตามร่างกายตัวเอง ตนจึงต้องยอมให้แฟนหนุ่มนำเอาเชือกมาผูกข้อมือติดกันไว้ตลอดเวลา เพื่อให้เขาสบายใจว่าตนจะอยู่กับเขาตลอดเวลา ไม่ได้ห่างจากเขาหรือแอบหนีไปไหน ที่ต้องยอมให้เขาผูกข้อมือติดกัน เป็นเพราะกลัวว่าจะถูกเขาทำร้ายหรือไม่เขาก็จะทำร้ายตัวเองอีก

“แฟนหนุ่มจะมีอาการหลอนทุกครั้งที่กินยาเข้าไป บางครั้งก็เคยทำร้ายตัวเองด้วยการเอามีดมากรีดหัวตัวเองให้ดู รู้สึกกลัวมาก พอเกิดเรื่องเมื่อคืนนี้ ตอนเช้าจึงโทรขอความช่วยเหลือจากอาให้มารับออกจากบ้านหลังนี้ อยากกลับไปอยู่ที่บ้านอา ไม่อยากอยู่ที่บ้านแฟนหนุ่มแล้ว เกรงว่าเขาจะเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายไปมากกว่านี้ หลังจากนี้คงไม่กลับมาที่บ้านหลังนี้อีก เพราะกลับมาก็เป็นเหมือนเดิม” น.ส.บี กล่าว