จากเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารของสายการบินเจจู แอร์ เที่ยวบินที่ 7C2216 มีผู้โดยสารทั้งหมด 175 ราย รวมทั้งลูกเรือ 6 ราย รวม 181 ราย เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปสนามบินนานาชาติมูอัน ในจังหวัดช็อลลาใต้ เกาหลีใต้ แต่ลื่นไถลออกนอกรันเวย์และชนกับรั้วกั้นทำให้เครื่องบินระเบิด มีผู้โดยสารเสียชีวิต 179 ราย รอดชีวิต 2 ราย มีชาวไทยเสียชีวิต 2 ราย คือ น.ส.จงลักษ์ ดวงมณี อายุ 45 ปี ชาวอุดรธานี และ น.ส.สิรีธร จะอื่อ หรือ “เหมย” อายุ 22 ปี ชาวเชียงราย สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับครอบครัวและญาติพี่น้อง ที่ต้องสูญเสียคนที่รักไป
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายบุญช่วย ดวงมณี อายุ 77 ปี พ่อของ น.ส.จงลักษ์ ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 38/1 หมู่ 6 บ้านหนองแสง ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พร้อมกับญาติพี่น้องว่า เมื่อคืนนี้ นายโฮ แฟนชาวเกาหลีของ น.ส.จงลักษ์ ได้โทรศัพท์มาหา พร้อมกับมีล่ามแปลให้ฟังว่า น.ส.จงลักษ์ ได้จดทะเบียนสมรสกับแฟนชาวเกาหลี ก็ถือว่าเป็นชาวเกาหลีแล้ว แฟนชาวเกาหลีจะทำให้ดีที่สุด จะไปดำเนินการรับศพในวันพรุ่งนี้ และจะนำไปทำพิธีฌาปนกิจศพให้เรียบร้อย ก่อนจะนำเถ้าอัฐิ น.ส.จงลักษ์ กลับมาบ้านที่เมืองไทย แต่ไม่รู้ว่าจะนำอัฐิกลับมาวันไหน ซึ่งตนได้ฟังแล้วก็ได้ปรึกษาญาติพี่น้อง ต่างก็เห็นดีด้วย จึงให้แฟนชาวเกาหลีเป็นคนจัดการทุกอย่าง
“…หลังจากที่รู้แน่ชัดว่าลูกเสียชีวิตแน่นอนแล้ว เช้าวันนี้ตนก็ได้ทำบุญตักบาตรให้ลูกพร้อมกับสั่งลูกหลานไปนำข้าวเปลือกไปสีเพื่อนำมาไว้ต้อนรับญาติพี่น้อง และแขกเหรื่อ ที่มาถามไถ่ และแสดงความเสียใจ ส่วนครอบครัวของลูกที่อยู่ จ.พิจิตร กับแฟนชาวไทยซึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ก็ได้ยกให้พวกตนเป็นคนจัดการทุกอย่าง ไม่ได้ขัดข้อง ยังไม่ได้พาลูกเดินทางมาอุดรธานี คาดว่าจะมาร่วมงานในวันที่นำอัฐิมาถึงอุดรธานี ส่วนลูกชาย 2 คน ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ ตนก็ยังไม่อยากให้เดินทางกลับบ้าน เพราะตอนนี้ยังกลัวไม่หาย…”
ด้าน น้องสาวและแม่ของ น.ส.จงลักษ์ ได้ร่วมกันให้ข้อมูลว่า เมื่อคืนนี้นายโฮ แฟนของน.ส.จงลักษ์โทรฯ มาว่า จะไปรับเอาศพในวันพรุ่งนี้ ในฐานะสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะนำไปทำพิธีฌาปนกิจที่เกาหลี และจะนำอัฐิกลับมาเมืองไทย แต่ยังไม่ทราบว่า ส่วนเรื่องหนี้สิน ผู้ตายได้กู้เงิน ธอส.จำนวน 5 แสนบาทมาทำบ้าน เจ้าหน้าที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้โทรฯ ประสานมาว่า บ่ายวันนี้จะนำโฉนดที่ดินมาคืน พร้อมกับสินไหมทดแทน เพราะว่า น.ส.จงลักษ์ ได้ทำประกันชีวิตไว้ เมื่อเสียชีวิตหนี้บ้านก็จะเป็นศูนย์ ไม่ต้องส่งต่ออีกแล้ว
ต่อมาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน นายวิกิจชัย แซ่เจีย ผู้จัดการ ธอส.เขตอุดรธานี นายปวริศ บุญรัตน์ ผู้จัดการ ธอส.สาขาอุดรธานี และ น.ส.สุภาพร โลมินทร์ ผู้จัดการ ธอส.สาขาเซ็นทรัล อุดรธานี ได้เดินทางมามอบโฉนดที่ดิน น.ส.จงลักษ์ และสินไหมทดแทนจำนวน 76,388.94 บาท ให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ เนื่องจาก น.ส.จงลักษ์ ได้นำโฉนดที่ดินไปกู้เงินธนาคารอาคารสงเคราะห์จำนวน 5 แสนบาท เพื่อมาสร้างบ้าน โดยสัญญาชำระ 30 ปี พร้อมกับทำประกันชีวิตเต็มวงเงิน มอบให้เป็นผู้รับผลประโยชน์ น.ส.จงลักษ์ ชำระหนี้บ้านได้ 15 ปี 1 เดือน น.ส.จงลักษ์เสียชีวิต ทำให้หนี้เป็นศูนย์ และยังมีเงินสินไหมทดแทนอีกจำนวนหนึ่งมอบให้ผู้รับผลประโยชน์ แต่แม่ได้เสียชีวิตไปเมื่อ 5 ปีก่อน จึงนำเงินมามอบให้นายบุญช่วย ซึ่งเป็นคู่สมรสแทน