เมื่อวันที่ 18 ม.ค.สะเดา ถือว่าเป็นผักที่มีคุณประโยชน์มากมาย แม้จะมีรสชาติที่อาจจะไม่ถูกใจ ถูกปากกับเด็กรุ่นใหม่ เนื่องจากมีรสขม แต่หากนำไปจิ้มกับน้ำปลาหวาน หรือน้ำพริกก็จะเจริญอาหารมากทีเดียว
ประโยชน์ของสะเดา
– ดอกสะเดาช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวารได้
– ช่วยบรรเทาอาการปัสสาวะขัด
– ช่วยบรรเทาอาการไข้ แก้ร้อนใน
– ดอกมีฤทธิ์ช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการคันคอ
– มีส่วนช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น – – ช่วยบรรเทาอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ
– ยอดอ่อน และดอกสะเดาจะช่วยบำรุงธาตุลม
– ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างดี
– ช่วยบำรุงเหงือกและฟัน รักษาอาการติดเชื้อในช่องปาก โรคเลือดออกตามไรฟัน โรคเหงือกอักเสบ
– ช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผม
– มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเนื้องอก และโรคมะเร็ง
ข้อควรระวังในการรับประทานสะเดา
แม้จะมีประโยชน์มาก แต่การรับประทานสะเดาอย่างไม่ถูกต้องก็ทำให้เกิดอันตรายได้ ดังนี้
-การรับประทานในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดท้องเสียได้
-การรับประทานปริมาณต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้ส่งผลเสียต่อตับและไตได้
ใครที่ไม่ควรรับประทานสะเดา
— ผู้ป่วยโรคไตไม่ควรทานสะเดา เพราะสะเดาเป็นพืชที่มีโพรแทสเซียมสูง
– ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคกรดไหลย้อน ควรหลีกเลี่ยงการทานสะเดา เพราะรสขมของสะเดาจะไปกระตุ้นการสร้างน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร
– หญิงมีครรภ์หรือให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการทานสะเดา เพราะจะทำให้ไม่มีน้ำนม
– ผู้ที่มีปัญหาโรคความดันโลหิตต่ำ ควรหลีกเลี่ยงการทานสะเดาในปริมาณมาก เพราะอาจะทำให้เกิดอาหารหน้ามืด เป็นลมได้
หากต้องการรับประทานสะเดาเป็นยารักษาโรค ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง เพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสม ให้ปลอดภัยในการใช้
ขอบคุณข้อมูลจาก เพจสาระดีDee และhttps://hdmall.co.th