เมื่อวันที่ 18 ม.ค.68 พ.ต.ท.ไชยา แก้วยก สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมือง จ. บุรีรัมย์ รับแจ้งมีคนผูกคอเสียชีวิตอยู่ข้างทางบ้านหนองโสน หมู่ 1 ต.หนองตาด อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นทางเข้าสำนักสงฆ์หนองโสน บนต้นตะค้อสูงประมาณ 4 เมตร พบศพน.ส.พรวิตรี อายุ 32 ปี ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ชาว อ.เมืองบุรีรัมย์ สภาพใช้สายไฟฟ้าผูกคอตัวเองกับต้นตะค้อ คาดเสียชีวิตมาไม่น้อยกว่า 12 ชม.จนสายไฟยืด ตัวลงมานั่งพับอยู่กับพื้น ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลของการถูกทำร้าย พบเพียงกระเป๋าเสื้อผ้า ตรวจค้นพบโทรศัพท์ ,เสื้อผ้า และจดหมายลาตาย เขียนในลักษณะฝากความแค้นให้กับหญิงคนหนึ่งระบุชื่อเล่นชัดเจน

สอบถามนายพล คะเลรัมย์ อายุ 63 ปี อพปร.ในหมู่บ้านและเป็นคนพบศพเล่าว่า ก่อนพบศพกำลังจะไปที่สำนักสงฆ์ ผ่านมาเหลือบไปเห็นหญิงนอนลักษณะคุดคู้อยู่ข้างทาง จึงเดินเข้าไปดูพบกระเป๋าเสื้อผ้า พบสายไฟฟ้าผูกจากต้นตะค้อโยงมาผูกคอหญิงสาว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ

นางทอง บริสุทธิ์ อายุ 79 ปี ยายของนายบิ๊ก แฟนหนุ่มผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายมาอยู่กับหลานได้ประมาณ 2 เดือน และเมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมาได้มีผู้หญิงคนหนึ่งมาหาผู้ตายบอกว่าเป็นญาติกัน หลังจากนั้นได้ซื้อเบียร์มาดื่มด้วยกัน แต่ภายหลังหญิงสาวคนดังกล่าวกลับไป ทั้งสองเริ่มมีปากเสียงกัน ก่อนเกิดเหตุตนเห็นจอยเดินออกจากบ้านแต่ไม่รู้ว่าไปไหน กระทั่งมาทราบข่าวว่าผูกคอตายอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตรดังกล่าว

นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี พี่สาวผู้ตายเล่าว่า ผู้ตายมีลูกกับแฟนเก่า 2 คน ก่อนหน้านี้ได้ไปติดพันกับหนุ่มคนชื่อบิ๊ก แล้วไปอยู่ด้วยกันกับฝ่ายชายได้ประมาณ 2 เดือน เมื่อวาน(17ม.ค.)เวลาประมาณ 19.00 น.ผู้ตายโทรมาหาบ่นตัดพ้อว่าญาติตัวเองจะมาแย่งแฟน แล้วบอกฝากลูกด้วย 2 คน แต่ตนไม่ได้สนใจมากนักเพราะเคยพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วได้แต่ปลอบใจพอตอนเช้า แชตไปหาไม่ตอบ กระทั่งมีคนโทรมาแจ้งว่าคิดสั้นแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานผู้ตายเกิดเสียใจเรื่องที่ญาติจะมาแย่งแฟนไป จนมีปากเสียงทะเลาะกับแฟนหนึ่งจนเกิดความเครียด น้อยใจเก็บเสื้อผ้าออกมาจากบ้านโดยเดินคิดมาไกลถึง 3 กิโลเมตร ก่อนตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างรอผลชันสูตรหาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป